"ฟุตบอล" มีอะไรที่ให้มากกว่า "ชัยชนะ" หรือ "พ่ายแพ้"
แม้ว่าจะเป็นกีฬาการแข่งขันที่ต้องเล่นด้วย "เท้า" แต่กลับเป็นกีฬาที่ต้องสร้างสรรค์ผลงานเลอเลิศออกมาให้ปรากฏ ด้วยความสามารถ และ ด้วย "หัวใจ" ของนักเตะ หากจะมีนักเตะคนหนึ่งคนใดที่มีสิ่งเหล่านี้
อยู่ในตัวตนของเขา ผนวกกับความทุ่มเท ความตั้งใจในการฝึกซ้อมเตรียมสภาพร่างกายพร้อมที่จะลงไปวาดลวดลายความสามารถของตนที่มีอยู่ คงเป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งหากนักเตะคนนั้นจะไม่มีโอกาสลงเล่น
ฟุตบอลที่เขารักมากที่สุดไปตลอดชีวิตที่เหลือของเขา
นักเตะคนนี้ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว เพียงเคยเห็นเขาเล่นอยู่แค่ครั้งเดียวเท่านั้น เมื่อล่องใต้ไปกับ 12 กองเชียร์ป้อมปราการ เมื่อวันเสาร์ที่ 26 กันยายน 2552 ที่สนามมินนารา จังหวัดนราธิวาส ครั้งเมื่อทีมสมุทร
ปราการ เอฟซี ไปแข่งขันรอบมินิลีก ปี 2009 นัดแรก ดีใจกับชัยนะ 0 - 1 ของป้อมปราการ ด้วยการบุกออกไปเยือนทีมนราธิวาส เอฟซี / กอและพิฆาต ถึงถิ่นโอ้แม่น้ำบางนรา แต่กลับมีความรู้สึกประทับใจมิรู้ลืม
มากกว่ากับบรรยากาศในสนามแข่งขันในขณะนั้นจวบกระทั่งบัดนี้ เห็นแฟนบอลกอและพิฆาตแน่นเต็มสนามถึงกับล้นทะลักมานั่งรอบ ๆ บริเวณลู่วิ่งสนาม รวมกันแล้วราวประมาณกว่าหนึ่งหมื่นชีวิต เห็นรอยยิ้มแย้ม
บนใบหน้าของแฟนบอลเจ้าถิ่นหลังเกมจบ ทั้ง ๆ ที่ทีมนราธิวาส เอฟซี ของพวกเขาจะพ่ายแพ้ต่อป้อมปราการก็ตาม แสดงถึงความมีน้ำใจนักกีฬาที่สูงยิ่งของกองเชียร์ ตลอดจนการต้อนรับอย่างดียิ่งของเจ้าหน้าที่ทีม
นราธิวาส เอฟซี และ ประชาชนชาวบางนราทั่วไปที่ได้พบปะพูดคุยด้วย ต่างล้วนมีอัธยาศัยเป็นมิตรให้กับแฟนคลับป้อมปราการที่ล่องใต้ลงมาจากแดนไกล
นักเตะคนนั้น นักเตะหมายเลข 10 ของ กอและพิฆาต นราธิวาส เอฟซี ในปี 2009 คือ แวเดร์ สาคอ ซึ่งมีโอกาสแสดงความสามารถชั้นเชิงฟุตบอลของตนถึงเพียงวันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม 2552 ณ สนามกีฬา
กลางจังหวัดเลย ก่อนที่ต่อมาจะมีหนังสือแจ้งจากสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่ ฟภ. 065 / 2552 ลงวันที่ 20 ตุลาคม 2552 มีมติให้พิจารณาลงโทษ แวเดร์ สาคอ เนื่องจากทำร้าย
กรรมการผู้ตัดสินด้วยการ ใช้หมัดซ้ายชกเข้าที่หูซ้ายของกรรมการผู้ตัดสิน คณะกรรมการจัดการแข่งขันฟุตบอลลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 ปี 2009 ซึ่งทำการประชุมร่วมกับ คณะกรรมการผู้ตัดสิน และ คณะกรรมการ
พิจารณา มารยาท วินัย และ ข้อประท้วง จึงมีมติลงโทษด้วยการ ห้ามเข้าร่วมกิจกรรมที่จัดขึ้น โดยสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ตลอดชีวิต
บัดนั้น เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2552 ถึง บัดนี้ วันที่ 12 เมษายน 2554 วันที่ถือเสมือนหนึ่งเป็นวันสิ้นปีเก่าของไทย ก่อนที่วันรุ่งพรุ่งนี้จะเข้าสู่วันสงกรานต์ วันที่ 13 เมษายน 2554 ซึ่งนับเป็นวันปีใหม่ไทย การที่
แวเดร์ สาคอ ได้รับโทษตลอดชีวิตมาแล้วเป็นเวลา 1 ปี 5 เดือน 23 วัน จริงอยู่ที่ แวเดร์ สาคอ จะต้องได้รับโทษจากการบันดาลโทสะ ไม่สามารถควบคุมสติอารมณ์ของตนเองได้ ถึงกับทำร้ายกรรมการผู้ตัดสิน
ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรงอย่างยิ่งที่นักกีฬาไม่สมควรกระทำเยี่ยงนั้น แต่ระยะเวลาในการที่ แวเดร์ สาคอ ได้รับโทษานุโทษในการกระทำที่ไม่ถูกต้องนั้น สมควรได้รับการพิจารณาผ่อนผันตามเรื่องที่ทางนราธิวาส
เอฟซี ทำเรื่องยื่นหนังสืออุทธรณ์ไปยังอุปนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันฟุตบอลลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 ซึ่งเป็นผู้ลงนามในหนังสือฉบับข้างต้นในการแจ้งโทษ
นักกีฬา
แวเดร์ สาคอ คงรับรู้ได้ถึงผลร้ายในการกระทำที่ขาดสติที่นักกีฬาควรมี แต่หากว่า แวเดร์ สาคอ ได้รับโทษนานพอสมควรแล้ว คณะกรรมการทุกท่านที่เกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าว จะไม่มีใจกรุณาพิจารณาถึงการ
ผ่อนผัน หรือ ยกเลิก บทลงโทษห้ามเข้าร่วมกิจกรรมที่จัดขึ้น โดยสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ตลอดชีวิต เชียวหรือ "อภัยทาน" ให้แก่ชีวิตของ แวเดร์ สาคอ ในเทศกาลสงกรานต์ 2554 นี้ จะประดุจ
ดั่ง การคืน "หยดน้ำแห่งชีวิต" ให้ไหลรินกลับสู่อ้อมอกกระแสธาราแห่ง "แม่น้ำบางนรา" เป็นการ "คืนชีวิต" ให้กับสายน้ำ และ คืนกระแสศรัทธาที่ชาวนราธิวาสมีให้กับ กอและพิฆาต นราธิวาส ยูไนเต็ด ว่า
ประธานคณะกรรมการฯ และ คณะกรรมการทุกท่าน ได้เคยเรียน เคยอ่าน เรื่องราวของ "องคุลีมาล" และ พระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลปัจจุบัน "เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา"
โปรดนำมาปฏิบัติสักครั้งหนึ่งในชีวิตการทำงานเพื่อให้เป็นเกียรติประวัติจารึกไว้ในเส้นทางสายฟุตบอลไทยด้วยเทอญ
ขอขอบคุณ
http://www.thailandsusu.com/webborad/index.topic=1659540
mart nara
12_united
กองเชียร์ทุกสโมสรที่ช่วยกันเป็นแรงใจให้กับ แวเดร์ สาคอ กลับคืนสู่สายน้ำบางนรา
ประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันฟุตบอลลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 ปี 2009, 2010, 2011 และ คณะกรรมการที่เกี่ยวข้องทุกท่าน