http://main.thedietpump.com/
ทำไม? ผมถึงไม่ได้ลงเล่นครับโค้ช ทั้ง ๆ ที่ผมก็มาซ้อมทุกวัน???
• โค้ชเอาอะไรมาตัดสินว่าผมไม่สามารถลงเล่นได้???
• ทำไม? แค่ครึ่งเวลาแรก ก็หมดแรงแล้ว? ทั้ง ๆ ที่ตอนฝึกก็ฝึกหนัก
หลากหลายคำถาม ที่ทั้งโค้ช ผู้ฝึกสอน หรือแม้กระทั่งนักกีฬาประสบพบเจอกันอยู่บ่อย ๆ ทั้งที่ให้คำตอบได้และไม่สามารถให้คำตอบได้ โค้ชบางท่านอาจตัดสินใจในการเลือกนักกีฬาลงแข่งตามความขยันในการฝึกซ้อม บางท่านเลือกนักกีฬาลงเล่นเพราะสนิทกันเป็นการส่วนตัว หรือที่เรียกว่าเด็กเส้น เป็นปัญหาภายในทีมที่ค่อนค้างฝังรากลึก จนทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมกันของการคัดเลือกตัวนักกีฬาลงเล่น โดยรู้จักกันดีในทางวิชาการว่า “BIAS” วันนี้ผู้เขียนอยากแนะนำการใช้ การทดสอบสมรรถภาพทางกาย (Specific Physical Fitness Test) สำหรับ โค้ช ผู้ฝึกสอน หรือแม้กระทั่งนักกีฬาเอง เพื่อการประเมินตนเองจากผลของการทดสอบว่าควรจะพัฒนาตัวเองได้อย่างไร จะใช้เกณฑ์อะไรเป็นตัวตัดสินว่าใครจะได้ลงเล่นหรือนั่งชะเง้อมองเพื่อนอยู่ข้างสนาม
ในบทความ สมรรถภาพกับฟุตบอลตอนที่ 1 นี้ เราจะพูดถึงสมรรถภาพทางกายทั่วไปกันก่อน (พูดง่าย ๆ ว่าปูพื้นฐานความรู้นั่นแหละ) ถ้าไม่นับนักวิทยาศาสตร์การกีฬา นักกีฬาหรือผู้ที่เคยทำการทดสอบสมรรถภาพกันมาบ้างแล้ว แทบจะหาได้น้อยที่จะหาคนที่รู้ว่า“สมรรถภาพทางกาย” คืออะไร? และการทดสอบต้องทดสอบอะไรบ้าง ตอนนี้เรามาดูกันว่าถ้าเกิดอยากจะทดสอบสมรรถภาพทางกายขึ้นมา จะต้องเตรียมตัวอย่างไรและต้องทดสอบอะไรบ้าง
การทดสอบสมรรถภาพทางกาย (Physical Fitness Test)
สมรรถภาพทางกาย หมายถึง ความสามารถของร่างกายในการประกอบกิจกรรมต่าง ๆ หรือกิจกรรมการเล่นกีฬาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สมรรถภาพทางกาย สำคัญอย่างไร?
สมรรถภาพทางกาย มีความสำคัญอย่างยิ่ง สำหรับการมีคุณภาพชีวิตที่ดีของทุกคน เพราะไม่เพียงจะบ่งบอกถึงความสามารถของแต่ละคน ในการใช้ชีวิตประจำวัน หรือการเล่นกีฬา ได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังเป็นเครื่องมือที่บอกถึงการมีสุขภาพดีหรือไม่ดีด้วย เพราะถ้าขาดด้านใดด้านหนึ่งไป จะทำให้เกิดอุปสรรคต่อการทำงานของระบบอื่น ๆ ของร่างกายได้
ทำไม? ถึงต้องทำการทดสอบสมรรถภาพทางกาย?
การทดสอบสมรรถภาพฯ เป็นวิธีการที่ช่วยส่งเสริมการออกกำลังกาย เพราะ เป็นตัวชี้วัดในการแก้ไขข้อบกพร่องของร่างกายให้สมบูรณ์แข็งแรงยิ่งขึ้น รวมไปถึงจะเป็นแรงจูงใจที่สำคัญในการออกกำลังกายต่อไป เช่น การทดสอบปริมาณไขมันในร่างกาย ผลปรากฏว่าไขมันในร่างกายลดลง ความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ ลดลง ทำให้ผู้ที่ออกกำลังกายหรือเล่นกีฬามีแรงจูงใจที่จะกระทำต่อไป
สมรรถภาพทางกาย สามารถแบ่งให้เห็นได้ชัดเจน 2 ประเภท คือ
1. สมรรถภาพทางกายทั่วไป (General Physical Fitness)
2. สมรรถภาพทางกายเฉพาะชนิดกีฬา (Specific Physical Fitness)
สมรรถภาพทางกายทั่วไป (General Physical Fitness)
สมรรถภาพทางกายทั่วไป ถูกแบ่งให้เห็นได้ชัดเจนเป็น 7 ประเภท และง่ายต่อการอธิบาย คือ
1) ความเร็ว (Speed)
2) พลังกล้ามเนื้อ (Muscle Power)
3) ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ (Muscle Strength)
4) ความอดทนของกล้ามเนื้อ (Muscle Endurance)
5) ความคล่องแคล่วว่องไว (Agility)
6) ความอ่อนตัว (Flexibility)
7) ความอดทนทั่วไป (Aerobic Capacity)
สมรรถภาพทางกายทั่วไปนี้ ส่วนใหญ่ทำการทดสอบเพื่อต้องการทราบสมรรถภาพทางกายของบุคคลทั่วไป เด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ แต่นักกีฬาจำเป็นที่จะต้องมีสมรรถภาพร่างกายที่ดีกว่าบุคคลทั่วไป ดังนั้นการทดสอบสมารรถภาพทั่วไปอาจจะไม่สามารถบอกถึงระดับสมรรถภาพของนักกีฬาได้ เนื่องจากการทดสอบไม่ละเอียดและครอบคลุมทักษะของนักกีฬา และทักษะเฉพาะแต่ละชนิดกีฬาเป็นผลที่ทำให้สร้าง/เลือกการทดสอบสมรรถภาพเฉพาะชนิดกีฬานั้น ๆ
สมรรถภาพทางกายเฉพาะชนิดกีฬา (Specific Physical Fitness)
เป็นสมรรถภาพที่นักกีฬาจะต้องมีเฉพาะสำหรับกีฬานั่น ๆ ที่จะแข่งขัน? พูดกันง่าย ๆ คือ นักฟุตบอลจะต้องมีสมรรถภาพทางกายที่แตกต่างจากนักยิมนาสติก เช่น นักฟุตบอล ต้องฝึกกำลังกล้ามเนื้อขา ไหล่และลำตัวเป็นพิเศษ ส่วนนักเทควันโดต้องฝึกกำลังกล้ามเนื้อแขน ไหล อก ขาและลำตัวเป็นพิเศษ เป็นต้น
กีฬาแต่ละประเภท ต้องการสมรรถภาพแต่ละด้านไม่เท่ากัน แต่สามารถใช้เทคนิคเข้ามามีส่วนร่วมได้ และยิ่งถ้าเทคนิครวมกับสมรรถภาพทางกายที่ดี จะช่วยให้เกิดผลสำเร็จในกีฬาทุกประเภท
โดยเฉพาะฟุตบอลที่เป็นกีฬายอดนิยม นอกจากจะมีเทคนิคที่ดีแล้วสมรรถภาพทางกายถือเป็นสิ่งที่สำคัญ ในการที่จะคงความสามารถให้แข่งขันได้ตลอดระยะเวลา 90 นาที หรือมากกว่า ถ้าเกิดการต่อเวลาพิเศษ
ตอนหน้าเราจะได้มารู้กันว่า สมรรถภาพทางกายสำหรับนักกีฬาฟุตบอล ใดบ้างที่มีส่วนสำคัญต่อความสำเร็จในกีฬาฟุตบอล...........