ประวัติศาสตร์ มีไว้เพื่อบันทึกเรื่องราวความเป็นมา สถิติ มีไว้เพื่อทำลายและสร้างสรรค์ขึ้นมาใหม่
พระยาตาก หรือ พระยาวชิรปราการ ได้รวบรวมระดมกำลังพลประมาณ 500 คน ต่อสู้โรมรันกับกำลังทหารของกรมการเมืองระยองที่ได้นำกำลังทหารประมาณ
1,500 คน เข้ารุมโอบล้อม พระยาวชิรปราการและทหารเสือพระยาตากต่อสู้ด้วยความกล้าหาญ ห้าวหาญ เด็ดเดี่ยว เข้าตียึดเมืองระยองไว้ได้เมื่อปี พ.ศ. 2310
บรรดาทหารได้เห็นความสามารถของพระยาวชิรปราการ จึงพากันยกย่องเรียกว่า เจ้าตาก และโดยที่ชื่อเดิมของท่าน ชื่อว่า สิน จึงต่างพากันเรียกว่า เจ้าตากสิน
เจ้าตากได้ให้พักกำลังพลอยู่ในเมืองระยองประมาณ 7 - 8 วัน เพื่อบำรุงขวัญจิตใจทหารหาญและจัดการบ้านเมืองให้เรียบร้อยก่อนที่จะยกกำลังนำทัพมุ่งหน้าต่อ
ไปยังเมืองจันทบุรี เพื่อใช้เป็นที่ตั้งมั่นในการกอบกู้อิสรภาพจากพม่าในเวลาต่อมาจนสำเร็จสมดั่งความมุ่งหมาย
วันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2554 ตรงกับวันพระแรม 8 ค่ำ เดือน 4 ปีขาล กองกำลังห้าวหาญขุนพลนักเตะสมุทรปราการ เอฟซี ป้อมปราการ แห่ง กำแพง
ริมทะเล ณ ปากน้ำเจ้าพระยา พรั่งสรึงพรักพร้อมเปี่ยมไปด้วยกองสนับสนุนเสียงเชียร์และเสบียงกรังจากกองทัพฟอร์ทเทรสเสี้ยน ตลอดเวลาแห่งยุทธโรมรัน 90
นาทีไม่มีหยุด หากไม่บรรลุชัย ให้ได้มาซึ่งชัยชนะเหนือฝูงม้าลำพอง ระยอง เอฟซี ที่เริ่มอ่อนล้า ระโหยโรยแรงฮวบทรุดลงจากความพ่ายแพ้ถึง 2 ครั้ง 2 ครา ใน
3 ศึกก่อนหน้านี้
ด้วยความเป็นชาติอาชาไนย ระยอง เอฟซี คงมิยอมสยบหมอบราบโดยง่ายให้กับกองทัพแห่งปราการ เว้นเสียแต่ว่าขุนพลเหล่านักเตะ และ เหล่ากองเชียร์ป้อม
ปราการจะได้แสดงออกโดยพร้อมเพรียงกันทั้งในสนามและบนอัฒจันทร์ ให้เหล่าฝูงม้าที่แตกตื่นแตกแถว ตั้งแต่เมื่อได้เห็นการเปิดตัวธงผืนใหญ่ยักษ์ ในหัวใจ
ของคำว่า ศรัทธาปราการ รวมถึงธงทิวผ้าผืนใหญ่น้อยแห่งกองทัพป้อมปราการได้โบกพลิ้วปลิวไสวไล้ลู่เล่นลมบน อึกทึกครึกโครมด้วยเสียงกลองปราการดัง
ลั่นฟ้าดุจดั่งกลองศึกระรั่วยั่วเขย่าขวัญประสาทม้าลำพองให้หวาดผวาและหวั่นไหวทุกครั้งที่ได้ยิน ด้วยพลธงและมือกลองชุดยิ่งใหญ่ที่กลับมาสร้างความอลังการ
ที่จะสร้างความตื่นตาตื่นใจสนุกสนานเร้าใจให้กับเหล่ากองเชียร์ป้อมปราการ ขณะเดียวกันจะสร้างความตื่นตระหนกอกแตกตายในความกลัวจนขวัญเขาระรัวหนี
ไม่รู้จะต่อกรเยี่ยงใดกับเหล่าปราการทั้งบนสมรภูมิสนามหญ้าฟาดแข้ง และ สมรภูมิบนอัฒจันทร์เชียร์
ระยองงงงวยงกงัน รำพีง ตั้งแต่หาดแม่รำพึง บ้านก้นอ่าว ทอดยาว 10 กิโลเมตร ถึง หาดแม่พิมพ์ นี่แหละหรือ คือ แม่พิมพ์ปราการ สมคำเลื่องลือระบือขจรไกล
ว่าเป็น แม่แบบ ของฟุตบอลที่ดูสนุก นักเตะปราการเล่นบอลบุกรุกเอามาซึ่งชัยชนะ กองเชียร์ยืนตะโกนเชียร์สนุกสนานบันเทิงเฮฮาตลอดเวลา 90 นาที ไม่
มีหยุดจริง ๆ อุปกรณ์เชียร์ทั้งธงและกลอง ทั้งโบก และ ตี กันสุดมันสะใจ ชาวม้าลำพองคงต้องยอมรับในฝีเท้านักเตะทึ่งในฝีปากการเชียร์ และ ต้องเชื่อแล้ว
ว่า ทุกสนามเยือน คือ บ้านของปราการ ใน คืนสนอง สยองระยอง ค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม 2554 สนามกีฬาจังหวัดระยอง เวลา 17.30 น. เป็นต้นไป
ประวัติศาสตร์ มีไว้เพื่อให้ นักเตะ และ กองเชียร์ ป้อมปราการ บันทึกเรื่องราวความเป็นมา
สถิติ มีไว้เพื่อให้ นักเตะ และ กองเชียร์ ป้อมปรการ ทำลาย และ สร้างสรรค์ขึ้นมาใหม่
สถิติของทั้ง 2 ทีม ที่ผ่านมา ลีกภูมิภาค
เลก 1 ปี 2009 : เสาร์ที่ 2 พ.ค. 2552 / ระยอง 0 - 1 ปราการ
ผู้ทำประตูให้ปราการ : 0 - 1, 48' : จียัมฟี เอดู (Gyamfi Adu)
เลก 2 ปี 2009 : อาทิตย์ที่ 16 ส.ค. 2552 / ปราการ 3 - 1 ระยอง
ผู้ทำประตูให้ปราการ :
1 - 0, 70' : สุรพล พรบริบูรณ์ / 2 - 0, 81' : วุฒิชัย ถิ่นทวี / 3 - 0, 83' : จียัมฟี เอดู (Gyamfi Adu)
เลก 1 ปี 2010 : อาทิตย์ที่ 30 พ.ค. 2553 / ปราการ 1 - 0 ระยอง
ผู้ทำประตูให้ปราการ : พงศกร จันทร์หอม
เลก 2 ปี 2010 : อาทิตย์ที่ 22 ส.ค. 2553 / ระยอง 1 - 1 ปราการ
ผู้ทำประตูให้ปราการ : อุสมาน เชอรีฟ (Ousmane Cherif)
รอบแชมเปี้ยนส์ลีก ปี 2010
เลก 1 ปี 2010 : วันอาทิตย์ที่ 31 ต.ค. 2553 / ระยอง 2 - 1 ปราการ
ผู้ทำประตูให้ปราการ : ชมนันท์ สุขเกษม
เลก 2 ปี 2010 : วันอาทิตย์ที่ 12 ธ.ค. 2553 / ปราการ 0 - 0 ระยอง