ชีวิตนี้เกิดมาดั่งฟ้าลิขิต บรรจงขีดเส้นทางเดินชีวิตให้ก้าวย่างและผ่านไปข้องเกี่ยวด้วยท่ามกลาง "ปีศาจ" ที่วนเวียนโยงใยไปพันผูกไว้กับสิ่งต่าง ๆ ที่แวะเข้า
มาในห้วงเวลาต่าง ๆ ของชีวิต ให้รู้สึกสัมผัสได้ ระลึกถึงได้ ในแต่ละช่วงเวลาชีวิตที่ผ่าน ๆ มา
เมื่อเยาว์วัยเคยได้ยินว่าเด็กคนใดร้องไห้โยเยไม่หยุดโดยไม่มีเหตุผล พ่อแม่ผู้ปกครองมักดุและเอ็ดเด็กว่า "ถ้าไม่หยุดร้องไห้ เดี๋ยวผีปีศาจจะมาจับตัวไป"
ซึ่งได้ผลบ้าง ไม่ได้ผลบ้าง เด็กเงียบเสียงลงคงเป็นเพราะความกลัวแบบงง ๆ ว่า ภูติผี "ปีศาจ" คือ อะไรก็ไม่รู้ ที่ผู้ใหญ่ยกมาขู่อ้างเพื่อให้เงียบเสียงซะที
ครั้นโตขึ้นมา ในช่วงที่เมืองไทยยังเป็นยุคทีวีขาวดำอยู่นั้นสิ่งหนึ่งที่คิดว่าเป็นของขวัญชิ้นพิเศษสุดที่ได้รับลงมาจากฟ้าเบื้องบน คือ ได้ดูเทปการแข่งขันฟุตบอล
โลกครั้งที่อังกฤษเป็นเจ้าภาพและครองแชมป์ฟุตบอลโลกในปี พ.ศ. 2509 หรือ ปี ค.ศ. 1966 นักเตะที่รู้สึกชื่นชอบมากเป็นพิเศษสุด ทั้งในเรื่องฝีเท้าและ
บุคลิกลักษณะลีลาการเล่น คือ เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน ศูนย์หน้าหมายเลข 9 สุภาพบุรุษนักเตะ บุรุษผู้ผ่านสถานการณ์ความตายจากเครื่องบินตกที่นครมิวนิค
ประเทศเยอรมันตะวันตก ในสมัยนั้น กับ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ฮีโร่ในฐานะนักเตะตัวหลักสำคัญของ "สิงโตคำราม" ถือว่าเป็นต้น
ตำรับฟุตบอลสไตล์ผู้ดีขนานแท้ดั้งเดิม นี่คงเป็นปฐมสาเหตุว่าทำไม "ปีศาจแดง" จึงเป็นทีมที่ได้รับความนิยมต่อเนื่องจากรุ่นสู่รุ่นตั้งแต่บัดนั้นจวบจนบัดนี้
ต่อมาได้ฟังเพลงต่าง ๆ ของวงสุนทราภรณ์ ที่มีท่วงทำนองและเนื้อหาเพลงที่ฟังแล้วคล้ายได้ยินคนธรรพณ์มาเล่นกล่อมขับขานบทกวีที่แสนไพเราะให้ฟังเพลินใจ
ยิ่งฟังเพลงนี้ในช่วงหน้าฝนแล้ว ยิ่งแสนไพเราะจับใจเข้ากับสภาพบรรยากาศเสียยิ่งกระไรนั่นคือเพลง "ปีศาจวสันต์" ขับร้องโดย บุษยา รังษี เขียนคำร้องโดย
ศรีสวัสดิ์ พิจิตรวรการ ให้ทำนองโดย ครูเอื้อ สุนทรสนาน มหาคีตศิลป์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งอัมพวา สมุทรสงคราม ประเทศไทย และ ถือว่าเป็นบุคคลสำคัญของโลกด้วย
สมัยเรียนหนังสือต้องอ่านนวนิยายเพื่อทำรายงานบ้าง อ่านเป็นงานอดิเรกบ้าง ได้รู้จักตัวละคร "สาย สีมา" พระเอกของเรื่อง "ปีศาจ" พระเอกยอมได้ชื่อว่า
เป็นคนอกตัญญู ไม่ยอมเป็นทนายให้อาจารย์ที่เคยอุปการะเขามา เพราะไม่อาจฝืนใจฟ้องร้องคนชนบทยากจนที่เป็นลูกหนี้ของอาจารย์เขาได้ และ ยอมออก
จากงานที่ธนาคาร เพราะไม่ต้องการเป็นทนายดำเนินการไล่ที่คนจนตามความต้องการของธนาคารได้ "ปีศาจ" โดยบทประพันธ์ของ "เสนีย์ เสาวพงศ์" หรือ
คุณศักดิ์ชัย บำรุงพงศ์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำปี พ.ศ. 2533
"ปีศาจ" ได้ล่องลอยออกห่างหายไปจากช่วงชีวิตนานหลายปีโข จนกระทั่ง วันศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2553 ได้มีโอกาสดูละครเรื่อง "ปีศาจแสนกล" นำ
แสดงโดย ฟิล์ม / รัฐภูมิ โตคงทรัยพ์, ก้อย / รัชวิน วงศ์วิริยะ, เข็ม / รุจิรา ช่วยเกื้อ, หนุ่ม / กรรชัย กำเนิดพลอย ออกอากาศ วันจันทร์ - ศุกร์ เวลา
19.00 น. แต่ได้ดูบ้างเป็นบางครั้งบางคราวเท่านั้น
จวบกระทั่งไทยซัมมิท สมุทรปราการ เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนโลโก้ มาเป็น สมุทรปราการ ยูไนเต็ด "ปีศาจแดงแห่งปากน้ำ" หรือ "ปีศาจปูแดงแห่งบางปู"
ทำให้ บัดนี้ "ปีศาจ" ตนใหม่ได้มาแอบอิงอยู่เพียงเคียงข้างกาย ตราบใดที่ยังคงเป็นกองเชียร์ป้อมปราการ แห่ง สมุทรปราร เอฟซี ด้วยศรัทธาและหัวใจ
ความเชื่อมั่นใน "สุดยอดป้อมปราการ" และ สมุทรปราการ เอฟซี มิมีวันแปรเปลี่ยน
"ปีศาจ" ไม่ว่าจะมีอีกสักกี่ตัวตน ไม่ว่าจะมากันอีกสักกี่กองทัพ ก็คงไม่ทำให้เหล่าผู้กล้าและศรัทธาของผองกองเชียร์ป้อมปราการ แห่ง กองทัพฟอร์ทเทรส
เสี้ยน (Fortressian Army) ต้องอกประหวั่นพรั่นพรึนใจสั่นสะท้านแต่ประการใด ด้วยเพื่อนพ้องน้องพี่กองเชียร์สมุทรปราการ เอฟซี ต่างได้ผ่าน ได้ประสบ
พบเจอเหตุการณ์ต่าง ๆ ทั้งในแง่ดี ๆ แบบประทับใจมิรู้ลืม ทั้งในแง่ระทมและขมขื่นเพราะถูกกระทำด้วยการเอารัดเอาเปรียบแบบไม่มีน้ำใจนักกีฬาที่ดี ซึ่งเราต่าง
ก้าวเดินและข้ามผ่านพ้นพงหนามเหล่านั้นมาด้วยกันแบบไม่ทอดทิ้งลี้หลบหลีกหนีหน้าหายไปจากครอบครัวปราการแห่งนี้ ซึ่งยังคงผูกพันรักใคร่กลมเกลียวกัน
เสมอ ตราบนานเท่านานที่มีปราการ เอฟซี อยู่ในหัวใจ
บัดนี้ เสียงปี่กลอง เสียงกลองศึก เริ่มตีระรัวให้ได้ยินเสียงแว่วดังมาแต่ไกล ไกลมาก ๆ ไกลกว่าไกลกังวล หัวหินซะอีกเพราะไกลล่วงไปถึงเมืองประจวบคีรีขันธ์
ที่ว่ากันว่ามี "ปีศาจ" ตนใหม่ ที่เรียกขานตนเองว่า "ปีศาจพันตา" หรือ ช้างคู่ ประจวบ เอฟซี กำลังส่งสารเชิญให้สมุทรปราการ เอฟซี และ กองเชียร์
ป้อมปราการไปพันตูฟาดแข้ง เปิดศึกนัดแรกของลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 กลุ่มภาคกลางและตะวันออก ปี 2011 ในวันเสาร์ที่ 05 มีนาคม 2554 ณ สนามกีฬา
กลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เวลา 17.00 น.
"ป้อมปรการ" จะรวมพลออกไปปราบ "ปีศาจพันตา" ฉายาของกองเชียร์ ช้างคู่ ประจวบ เอฟซี ด้วยจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีบริเวณพื้นที่ที่อยู่ใกล้ทะเล
จึงเป็นแหล่งปลูกสับปะรดที่สำคัญของไทย โดยเฉพาะสับปะรดพันธุ์ปัตตาเวีย หรือ ที่รู้จักกันแพร่หลายในนามสับปะรดศรีราชา รวมถึงชื่ออื่น ๆ เช่น ปราณบุรี,
สามร้อยยอด ซึ่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ปลูกสับปะรดพันธุ์นี้กันมากเพื่อป้อนโรงงานอุตสาหกรรมเกษตร เสร็จกิจจากปฐมศึกนัดแรกจะได้กินสับปะรดของเหล่า
"ปีศาจพันตา" ที่มีรสหวานฉ่ำมีน้ำมากมาหล่อเลี้ยงหัวใจปราการ ประเดิมเก็บ "สามแต้มพันตา" ไว้ไปดิวิชั่น 1 ฤดูกาลหน้า ปี พ.ศ. 2555 เพื่อ ฮ่า ฮ่า ฮ่า