บางกอก อาย
นายพรเทพ เตะไพบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า นายชวรัตน์ ชาญวีรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวง
มหาดไทย (มท. 1) มอบนโยบายให้ กทม. จัดสร้างหอคอยชมเมืองให้เป็นแลนด์มาร์ค (Landmark) หรือ เป็นสัญลักษณ์
ของกรุงเทพฯ นั้น
เบื้องต้น กทม. ได้ตั้งคณะกรรมการพิจารณาศึกษาโครงการมี นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าฯ กทม. เป็นประธาน ได้ข้อสรุปว่า
จะจัดสร้างบางกอก อาย (Bangkok Eye) สูงที่สุดในโลกขนาด 176 เมตร เป็นหอคอยมีลักษณะเป็นชิงช้าสวรรค์ขนาด
ใหญ่ โดยอาจใช้งบสูงที่สุดในโลก คือ 3 หมื่นล้านบาท ให้มีลักษณะเหมือนลอนดอน อาย (London Eye) มีความสูงเพียง
150 เมตร ด้วยงบสร้าง แปดพันสองร้อยล้านบาท หรือ สิงคโปร์ ไฟล์เออร์ (Singapore Flyer) ความสูง 165 เมตร ใช้
เงินสร้าง หกพันล้านบาท
นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ กล่าวว่า ได้ประสานงานกับ นายเจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าของธุรกิจผลิตภัณฑ์น้ำดื่มและเบียร์ช้าง ขอ
ใช้พื้นที่ว่าบริเวณถนนเจริญกรุง ซึ่งอยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา เนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ อย่างไรก็ตาม ม.ร.ว. สุขุมพันธ์ บริพัตร
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เสนอความเห็นให้ใช้พื้นที่ภายในศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์เนื่องจากมีเนื้อที่หลาย 100
ไร่ แต่คณะที่ปรึกษาจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เคยกล่าวยืนยันว่าควรสร้างบริเวณที่ดินริมแม่น้ำเจ้าพระยาในบริเวณ
เกาะรัตนโกสินทร์ แถบบริเวณท่าเตียน ท่าช้าง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระอาทิตย์ บางลำภู สวนสันติชัยปราการ
โดยทั่วไปตึกระฟ้า (Sky Scraper) ในทวีปยุโรปต้องเป็นตึกที่มีความสูงอย่างน้อย 152.4 เมตร ขึ้นไป หากเปรียบเทียบ
บางกอก อาย (Bangkok Eye) ที่จะสูงที่สุดในโลก 176 เมตร กับ ตึกใบหยก 2 (Baiyoke Sky) ที่ก่อสร้างเสร็จในปี
พ.ศ. 2540 ตึกใบหยก 2 ซึ่งเป็นอาคารสูงที่สุดในประเทศไทยขณะนี้ มีความสูง 304 เมตร มีทั้งสิ้น 88 ชั้น
บางกอก ไม่อาย
หากว่า บางกอก อาย (Bangkok Eye) คือ หอคอยมีลักษณะเป็นชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่ มีกระเช้าให้ประชาชนเข้าไปนั่ง
ชมทิวทัศน์เมือง โดยจะให้เอกชนเป็นผู้ดำเนินการ หรือ หาผู้ร่วมทุน ส่วน กทม. จะจัดหาสถานที่และอำนวยความสะดวกใน
เรื่องกฎหมายและเรื่องภาษีให้ นั้น อาจจะจบโครงการตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มก่อสร้างก็ตามเถอะ ถ้าจะกล่าวถึง บางกอก ไม่อาย
ขอใช้ว่า (Bangkok No Eye) บางกอก ไม่อาย ทื่อ ๆ แบบนี้ อาจหมายถึงทีมฟุตบอลแต่ก่อนเก่าที่ชื่อว่า บางกอก บราโว่
(Bangkok Bravo) ซึ่งคำว่า Bravo เป็นคำอุทาน มาจากภาษาอิตาเลี่ยน ซึ่งมักทำให้เกิดอาการเลื่ยน เลี่ยน ได้เสมอ
เป็นทีมที่ประวัติยาวนานเหมือนกันนะ จากชื่อเดิม ทีมสมาคมตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เคยได้เข้าไปเล่นในไทย
ลีก ในยุดก่อนเก่ามาแล้ว ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น ทีมกรุงเทพมหานคร เข้าร่วมแข่งขัน โปรวินเชียลลีก (Provincial
League) ซึ่งจัดโดยการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และได้เปลี่ยนชื่อทีมเป็น บางกอก บราโว่ สนามเหย้าก็ไม่ใช่
สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ บางมด อยู่ดิวิชั่น 1 ได้ 2 ฤดูกาลก็ตกชั้นหล่นไปอยู่ดิวิชั่น 2 เมื่อปี 2009 จบฤดูกาลด้วย
อันดับเกือบ ๆ ท้ายของตารางในกลุ่มกรุงเทพปริมณฑล
เมื่อวันที่ 12 ก.พ. 2553 ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ทีมบางกอก บราโว่ ที่ก่อตั้งทีมตั้งแต่ปี 2542 ได้เปลี่ยนมาใช้
ชื่อว่า บางกอก เอฟซี (Bangkok FC) และเปลี่ยนโลโก้ใหม่จากเดิม ๆ ที่ต้องเป็นรูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ 4 งา
โดยลักษณะของช้างนั้นหันหน้าตรง พระหัตถ์ขวาถือวชิราวุธ (อาวุธของพระอินทร์) เท้าช้างเหยียบวลาหก (ก้อนเมฆ) มา
เป็นลัญลักษณ์วัวกระทิง มีเสาชิงช้าเป็นพื้นหลัง เป็นเพราะศาลาว่าการกรุงเทพมหานครที่เสาชิงช้า อยู่ใกล้ ๆ กันกับสี่แยก
คอกวัว ตรงบริเวณถนนราชดำเนินกลาง และกลับมาใช้สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ บางมด เป็นสนามเหย้าโดยกล่าวว่าได้
ทำการปรับปรุงใหม่รองรับแฟนบอลได้ถึง 8,000 ที่นั่ง สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ บางมด นี้ บางกอก เอฟซี ได้ยึดกลับ
มาจากทีมสมุทรปราการ เอฟซี ที่เช่าสนามนี้เป็นสนามเหย้าของป้อมปราการ ผ่านสำนักสวัสดิการสังคม กรุงเทพมหานคร
อย่างไร้ซึ่งเยี่อใยไมตรีที่ดี
โดยมี นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะประธานสโมสร พร้อมนายทวีศักดิ์ เดชเดโช รองปลัด
กรุงเทพมหานคร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขตทุ่งครุ พรระคประชาธิปัตย์ นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ ที่ปรึกษาสโมสรฯ และ
อาจารย์ทองสุข สัมปหังสิต ประธานพัฒนาเทคนิคและหัวหน้าสตาฟฟโค้ช โดยกล่าวอ้างว่าย้ายมาใช้สนามกีฬาเฉลิมพระ
เกียรติ บางมด ด้วยการทุ่มงบประมาณในการทำทีมปี 2010 นี้อยู่ที่ประมาณ 10 ล้านบาท เพราะอยากจะมาสร้างฐานแฟน
คลับย่านฝั่งธน ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่เต็มอกว่า มีทีมสมุทรปราการ เอฟซี ใช้เป็นสนามเหย้าอยู่ก่อนแล้วตั้งแต่ปี 2009
ทีมสมุทรปราการ เอฟซี และ กองเชียร์สุดยอดป้อมปราการ จะเป็นผู้ให้คำตอบสุดท้ายที่ถูกต้อง แก่ ทีมบางกอก
เอฟซี ในวันอาทิตย์ที่ 24 ตุลาคม 2553 ณ สนามกรมศุลกากร เวลา 15.30 น. ว่าจะเป็น บางกอก อาย อ๊าย อาย
ด้วยการเทงบหัวใจศรัทธาสามัคคีป้อมปราการของพวกเราทุกหยด ในการสร้างสรรค์ชัยชนะให้เป็นของนักเตะ และ
กองเชียร์ป้อมปราการทุกชีวิต ให้ลือลั่นสุดขอบฟ้า