ลืมเลือน ลบภาพ ความวุ่นวาย ในสนามกีฬากลางจังหวัดระยอง นัดที่ 3 ระยอง เอฟซี 2 - 1 สมุทรปราการ เอฟซี ยามค่ำคืน
หลอกหลอนวันฮาโลวีน วันอาทิตย์ที่ 31 ต.ค. 2553 ออกไปจากหัวใจกองเชียร์ป้อมปราการเพื่อการดึงกลับและรวบรวมสมาธิ
ความมุ่งมั่นในการตามหาคว้าชัยชนะนัดแรกบนแผ่นดินสมุทรปราการ ในการแข่งขันฟุตบอลรอบแชมเปี้ยนส์ลีก 2010 นัดที่ 4
ปราการเปิดบ้านรังหย้า สนามกรมศุลกากร ต้อนรับการมาเยือนของทีมเลย ซิตี้ ผีตาโขนออกศึก และ เหล่ากองเชียร์ตาโขนเรน
เจอร์ วันเสาร์ที่ 6 พ.ย. 2553 เวลา 15.30 น.
ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายกับเหตุการชลมุนขัดแย้งและกระทบกระทั่งกันซึ่งถือเป็นด้านมืด ด้านไม่ดี ที่เกิดขึ้นหลังจบเกมส์
การแข่งขันลงแล้วน นั้น เมื่อนั่งทำใจให้นิ่งสงบพยายามนึกย้อนว่าแล้วมีเหตุการณ์ใด สิ่งใด ที่พอจะประทับใจและเป็นภาพสวย
งามในด้านดีให้ชื่นชมบ้าง
เสียงตะโกนเชียร์ของพวกเรากองเชียร์สุดยอดปราการทุกท่านในนัดเยือนระยองที่ติดตามทีมและนักเตะออกไปร่วมรบเคียงบ่า
เคียงไหล่ไม่ทอดทิ้งกัน กระหึ่มและดังกึกก้องตลอดเวลาของการสงครามฟาดแข้ง 90 นาที เสียงกระหน่ำกระแทกตีให้เกิด
เสียงกลองเสนาะโสตหูรับฟังโดยพร้อมเพรียงกันทั้ง 4 ใบ ที่ทั้งหนักแน่นตึงตึงและต่อเนื่องติดต่อกันตลอดเวลาไม่มีหยุดหย่อน
เป็นการพิสูจน์ให้เห็นเด่นประจักษ์ปรากฏชัดเจนว่า กองเชียร์ป้อมปราการทุกนัดเยือนนี้สุดยอดจริง ๆ ทั้งเต็มที่ ทั้งสนุกสนาน
ทั้งเชียร์มันขาดสะใจจริง ๆ
แต่ที่จะขอชมเชยและยกย่องเป็นพิเศษสำหรับการสร้างสรรค์ผลงานเชียร์ของกองเชียร์สุดยอดปราการในนัดเยือนระยองนี้ คือ
ผลของความพร้อมพรั่งสมัครสมานสามัคคี ร่วมมือ ร่วมใจ ร่วมแรง รวมกันเป็นหนึ่งเดียวใจปราการในการโบกสะบัดพลัดพลิ้วปลิว
ลอยล่อง ทำให้ทุกอณูผิวบนผืนผ้าระเรื่อยมาถึงริมชายธงแต่ละผืนได้อ้อล้อเล่นระเริงพลิ้วปลิวสะบัดพัดไสวไปกับสายลมเย็นอ่อน
ของลมต้นหนาว เหมือนมีมนต์วิเศษเสกปลุกให้ธงแต่ละผืนผ้าฟื้นมีลมหายใจสามารถเต้นระบำรำฟ้อนเริงร่ามีชีวิตชีวาและเต็มไป
ด้วยสีสันแสนสวยสดงดงาม ในยามที่กองเชียร์สุดยอดป้อมปราการตะโกนเชียร์โดยแลเห็นมีธงแต่ละผืนโบกพลิ้วไสวไปมาคล้าย
เล่นหยอกล้อคลื่นรอนในท้องทะเลใสฟ้างาม ที่ยอดคลื่นฟองขาวสูงแต่ละลูกซัดพัดพากันเข้าหาฝั่งหาดทรายขาวเนียนละเอียด
ยิบและสู่ปฐพีริมฝั่งช่างเป็นความงดงามแสนสวยที่แลเห็นอยู่ตรงหน้ากองเชียร์นี้เอง
ความงาม ความประทับใจ ที่คำนึงถึงได้ในยามค่ำคืนวันอาทิตย์ ฮาโลวีน ที่ 31 ต.ค. 2553 จะมิทางเกิดขึ้นได้แต่อย่างใด ถ้าไม่
มีกลุ่มคนกองเชียร์ปราการที่เรียกขานตนเองว่า "พลธง" ภายใต้ความรักในการทำหน้าที่ การเสียสละความเหนื่อยล้าของการใช้
กำลังเพื่อทำให้ธงแต่ละผืนมีชีวิตโลดเต้นมีชีวิตไปตามจังหวะเสียงกลอง เสียงตะโกนเชียง เสียงตีสะบัดธงแหวกอากาศดังพรึบพรับ
และ เสียงเต้นเรียกร้องของหัวใจปราการกับ "พลธง" ผู้ทรงเกียรติและน้ำใจงามที่เสียสละเหล่านี้ ตุลย์ พงษ์ อ๊อด โจม ดาว
คะนอง หลวงเท่ และ เดอะ ติ๊ก
ขอบคุณจากหัวใจที่ทำให้รู้ว่าในท่ามกลางความบอบช้ำที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นผลการแข่งขันที่ไม่สมหวังดังใจ ความวุ่นวายที่เกิด
ขึ้นจากกลุ่มแฟนบอลอันธพาลของทีมเหย้าเจ้าบ้านทีมระยอง เอฟซี ในท่ามกลางเสียงเอะอะมะเทิ่งสับสน เมื่อเปิดใจรับฟังพลัน
ก็ได้ยินเสียงธงที่โบกสะบัดโดย "พลธง" คล้ายเตือนสติกองเชียร์สุดยอดป้อมปราการให้วกกลับมาอยู่กับ "ศรัทธาปราการ"
ที่ยังคงมีพลังและชีวิตให้พวกเราก้าวเดินและสู้ต่อไปแม้ว่าจะมีอุปสรรคมากมายเพียงใดก็ตาม ขวากหนามนั้นก็จะเป็นได้แค่เพียง
แรงหนุนลมส่งที่จะทำให้ "ธงชัยศรัทธาปราการ" ยังคงเป็นธงแห่งชัยชนะนำมาโบกพลิ้วปลิวสะบัดพัดไสวไปมาอย่างสวยสด
งดงามตลอดกาลและตลอดไป