ส.ฟุตบอลเชิญ 2 ตัวแทน ทีมสมุทรปราการ และ โรสเอเชีย ปิดห้องคุย พิจารณาปัญหาเกมเอฟเอคัพ ที่สมุทรปราการ เปลี่ยนตัวนักเตะที่ไม่ได้ส่งชื่อลงเล่น จนโรสเอเชียประท้วง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ก่อนตัดสิน วันชัย แหยมสลัม กุนซือปากน้ำโดนห้ามทำทีมข้างสนามตลอดทัวร์นาเมนต์ ขณะที่ผลยังยึดตามเดิม สมุทรปราการ ชนะ 2-1 เข้ารอบ ส่วน โรสเอเชีย รับค่าประกันคืน 1 หมื่น หลังทราบผล
ภายหลังจากที่ได้เกิดเรื่องวุ่นวายในสนาม ของการแข่งขันฟุตบอล "มูลนิธิไทยคม เอฟเอ.คัพ" เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการแข่งขันนอกรอบที่สนามหนองจอก ระหว่างคู่ของ สมุทรปราการ เจอกับ โรส เอเชีย ทั้งสองทีมต่างก็เล่นอยู่ลีกดิวิชั่น 2
เกมการแข่งขัน ดำเนินมาถึง น. 74 ได้เกิดเรื่องวุ่นวาย เมื่อ สมุทรปราการ ได้ทำการเปลี่ยนตัวผู้เล่น โดยเอาหมายเลข 21 ณภัทร ภู่ประเสริฐ ลงแทน อาดู ซึ่งในรายชื่อ ณภัทร มีชื่อใน 25 คนที่ส่งมา แต่ไม่ได้มีชื่อเป็นตัวสำรอง เท่ากับลงเล่นไม่ได้ ทำให้ ทีมโรสเอเชีย ได้ทำหนังสือประท้วงตามข่าวที่เสนอไปแล้ว
เมื่อเวลา 13.00น.วันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา คณะกรรมการได้เชิญ 2 ทีมมาประชุม โดยทางฝั่งของ สมุทรปราการ ได้เชิญ วันชัย แหยมสลัม หัวหน้าผู้ฝึกสอน และ วีระยุทธ นานช้า "บ่าววี" ส่วนฝั่งโรสเอเชียได้เชิญ ศุภชัย ศรีลาชัย โค้ชและทวีศักดิ์ หันทำเล ฝ่ายสิทธิประโยชน์ของทีมมาสอบถาม
โดยมีองอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการ ส.ฟุตบอล เป็นประธานพร้อมด้วย อุดม อนันตพงษ์ ประธานฝ่ายพิจารณามารยาท และข้อประท้วง ประสาทสินธ์ เหรียญศิริ หัวหน้าสำนักงาน ส.ฟุตบอล และคณะกรรมการส่วนหนึ่งได้ประชุมกัน โดยปิดห้องไม่สื่อมวลชนเข้าไปทำข่าว
หลังจากที่ใช้เวลาในการประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง ก็ได้เชิญผู้แทนทั้งสองทีมออกจากห้องประชุม เพื่อให้คณะกรรมการได้ร่วมกันตัดสินใจเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะเชิญกลับเข้ามาฟังใหม่ พร้อมกับแถลงข่าวไปในตัวด้วย
นาย องอาจ ได้แจ้งว่า"หลังจากที่คณะกรรมการได้ไต่สวนความผิดพลาดทั้งหมดในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกับได้โทรศัพท์ปรึกษากับ ภิรมย์ อั๋นประเสริฐแล้ว ความผิดที่เกิดขึ้นมามีอย่างเดียวคือ การเปลี่ยนตัวไม่สมบูรณ์เท่านั้น จากเหตุดังกล่าวไม่สามารถที่จะกลับคำตัดสินหรือปรับทีม จ.สมุทรปราการให้แพ้ได้ เพราะความผิดพลาดทั้งหมด เกิดจาก 2 ส่วน ส่วนแรกคือกุนซือทีม สมุทรปราการ วันชัย แหยมสลัม ที่เปลี่ยนตัวเหมือนกับจงใจเอาเปรียบทีมคู่แข่งขัน ทั้งที่รู้ว่านักเตะไม่มีชื่อเล่นสำรอง"
"ส่วนที่ 2 เกิดจากความประมาท และความสะเพร่าของกรรมการตัดสินทั้ง 4 คนประกอบด้วย เรืองศักดิ์ หนูเผือก กรรมการกลางสนาม, จรัญ ขวัญอยู่เย็น, นิวัฒน์ อินสะอาด ผู้กำกับเส้น และ วิเนตร แสนศิริ กรรมการที่ 4 รวมทั้ง เดชา มหาวิจิตร ผู้ควบคุมการแข่งขัน ทั้ง 5 คนทำหน้าที่ผิดพลาดเป็นอย่างมาก"
ทั้งสองเหตุการณ์คณะกรรมการได้พิจารณาแล้ว พร้อมลงโทษ วันชัย แหยมสลัม ห้ามลงทำหน้าที่สอนลูกทีมในเกม เอฟเอ.คัพ ตลอดทัวร์นาเมนต์ ไม่เกี่ยวกับรายการดิวิชั่น 2 ที่สามารถลงทำหน้าที่ได้ปกติ และทำการภาคฑัณฑ์ทีม สมุทรปราการ หากเกิดเรื่องกรณีนี้ขึ้นมาอีก ให้ยุบทีมและห้ามไม่ให้ สมุทรปราการ หาคนใหม่เข้ามาทำหน้าที่แทน อนุญาตให้ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนขึ้นมาทำหน้าที่แทนได้ ส่วนผลการแข่งขันยังเป็นไปตามเดิม สมุทรปราการ ชนะ 2-1 ผ่านเข้ารอบต่อไป พร้อมกับให้คืนเงินประกันจำนวน 1 หมื่นบาท คืนกลับแก่ทีมโรสเอเชีย เนื่องจากการประท้วงเป็นผล
กรรมการทั้งสี่และกรรมการวบคุมการแข่งขัน ถือว่าเป็นต้นเหตุของความวุ่นวาย ทางคณะกรรมการจะได้ส่งรายชื่อทั้งหมดให้คณะกรรมการผู้ตัดสิน ทำการพิจารณาต่อไป ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีบทลงโทษมากน้อยแค่ไหน อุดม อนันตพงษ์บอกว่า ต้องรอคุยกับคณะกรรมการ ส่วน ไกรสร พันธ์เพียร หนึ่งในคณะกรรมการผู้ตัดสินบอกว่า เหตุการณ์นี้ ตนมองว่าน่าจะหนัก แบนอย่างน้อย 1 เดือนสำหรับกรรมการที่ 4 ในการลงทำหน้าที่ ส่วนกรรมการคนอื่นๆ จะลดหลั่นลงไป
หลังจากที่ประกาศพิจารณาโทษเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองฝ่ายต่างพอใจกับการตัดสิน ทางฝั่ง โรสเอเชีย ทวีศักดิ์ หันทำเล ฝ่ายสิทธิประโยชน์ของทีมบอกว่า "พอใจในคำตัดสิน เหตุผลที่ทีมตัวเองประท้วงในครั้งนี้ ไม่ได้มีเจตนาที่จะให้มีการกลับคำตัดสิน เพียงแต่ต้องการสร้างความเป็นธรรมให้กับทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันเท่านั้น เพราะเกมฟุตบอล 1 เกมมีอะไรต่อมิอะไรเกิดขึ้นมาอย่างมากมาย บางทีมต้องการผลประโยชน์ส่วนตนมากเกินไป อีกทั้งกรรมการตัดสินก็ไม่ค่อยทันเกม และไม่ค่อยให้ความสำคัญในหลายๆ อย่าง เมื่อผลออกมาอย่างนี้ก็โอเคครับ"
ส่วนของ วันชัย แหยมสลัม ก็ยิ้มกับกับบทลงโทษ พร้อมบอกว่า "ผมรับได้ กับการที่ทางคณะกรรมการลงโทษ เนื่องจากการเปลี่ยนตัวของผมก็ไม่ได้ดูให้ดี แต่ยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะเอาเปรียบ เพียงแต่ในช่วงนั้นไม่ได้ดูให้ดี หลังจากนี้ไปคงต้องทำงานให้รอบคอบมากขึ้น"
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์เพื่อขอสัมภาษณ์ เดชา มหาวิจิตร ผู้ควบคุมการแข่งขัน แต่ไม่รับสาย รวมทั้งได้โทรศัพท์สัมภาษณ์ วิเนตร แสนศิริ กรรมการที่ 4 ปรากฎว่าไม่ยอมรับสายเช่นกัน ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ ส.ฟุตบอล ว่า ทาง วิเนตร แสนศิริ ได้แจ้งความผิดพลาดมาอย่างไรก็ได้รับคำตอบว่า ในช่วงของการเปลี่ยนตัวนั้น ได้มีอีกเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้น ทำให้เขาสับสนต้องไปดูอีกเหตุการณ์ พอกลับมาก็เลยเปลี่ยนตัวทันทีไม่ทันได้ดูว่านักเตะที่เปลี่ยนตัวลงไปนั้น ไม่มีชื่อเป็นผู้เล่นสำรองนั่นเอง
credit : http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/090629_112.html
สวัสดี บุคคลทั่วไป!