ทีมชาติเตะธันเดอร์โดม สมาคมฯ เสียอะไรการโยนแมทช์อุ่นเครื่องทีมชาติไทยกับสิงคโปร์ และอินเดีย ไปให้สโมสรเมืองทองฯเป็นผู้จัดนั้น ได้ยินผู้คนในฝั่งสมาคมฯและผู้จัดชี้แจงว่า เป็นเพราะต้องการเซฟค่าใช้จ่าย ซึ่งถ้าหากไปจัดที่ราชมังคลาฯ หรือศุภชลาศัย จะมีค่าเช่าไม่ต่ำกว่า 50,000 บาท ทั้งยังมีค่าเจ้าหน้าที่ต่างๆ รวมแล้วเกือบๆ 100,000 บาท
มีการให้อรรถาธิบายว่า การโอนสิทธิ์ไปให้เมืองทองเป็นผู้จัด ทำให้สมาคมฯ "ไม่ต้องเสียอะไรเลย" ? ?
หากเอาสายสัมพันธ์อันแนบแน่นระหว่างใครบางคน ละไว้ในฐานที่เข้าใจ ก็ต้องบอกว่า เจตนาของสโมสรเมืองทองยูไนเต็ดที่ต้องการเข้ามาช่วยจัดและแบ่งเบาภาระนั้นเป็นเรื่องที่ดี สมควรที่สโมสรอื่น อย่าง ชลบุรี บางกอกกลาส บุรีรัมย์พีอีเอ ศรีษะเกษ ทหารบก จะเอาเยี่ยงอย่าง เอาไปจัดที่สนามเหย้าของตัวเองบ้าง
หากแต่ความคิดของสมาคมที่ว่า "สมาคมไม่ต้องเสียอะไรเลย" นั้น เป็นความคิดที่มักง่ายเกินไป และที่สำคัญมันไม่เป็นความจริง
เป็นทัศนะคติเดิมๆ ที่คิดว่า แฟนบอลนั้นกินหญ้ากินฟางเป็นอาหาร
หากมีการกล่าวอ้างที่ว่า "สมาคมไม่ต้องเสียอะไรเลย" แฟนบอลควายๆ อย่างผู้เขียน ก็ต้องขอพูดต่อไปอีกว่า "แล้วสมาคมก็ไม่ได้อะไรเลยด้วย" สุดท้ายก็คือ "การเสียโอกาสหลายประการ" ในแมทช์อุ่นเครื่องที่ว่านี้
เสียทั้งโอกาสในการเก็บค่าผ่านประตู เสียโอกาสในการคืนประโยชน์ให้สปอนเซอร์ของทีมชาติไทย เสียโอกาสในการ 'สร้างมูลค่าของเกม'เสียโอกาสที่จะดึงผู้ชมเข้าร่วมอีกเป็นจำนวนมาก และยังเสียโอกาสในการสร้างเกียรติภูมิให้นักเตะทีมชาติไทย (ที่ทุกวันนี้มันลดน้อยลงทุกที)
ผมขอยกตัวอย่าง บอลดิวิชั่น 2 ระหว่างสมุทรปราการเอฟซี และสระบุรี เอฟซี ที่ไปเช่าสนามราชมังคลาฯ เตะ เขาก็จ่ายค่าเช่า 50,000 บาท แล้วเขาก็โปรโมทเชิญชวนแฟนบอล แฟนบอลเกิดศรัทธากระจายข่าวต่อทางอินเตอร์เน็ต สุดท้ายเก็บเงินผ่านประตูได้ประมาณ 1 แสนบาท ทั้งๆ เป็นระดับดิวิชั่น 2
ยังมีกำไรเหลือไปบริหารต่อ
อย่างนี้ สมควรให้ ประธานสโมสรสมุทรปราการฯ มานั่งเป็น นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย หรือไม่เรื่องมันผ่านไปแล้ว แต่ถ้าไม่นำมาพูด มันก็จะเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เป็นวงจรอุบาทว์
สายน้ำไม่ไหลกลับ แต่ผมขอชวนท่านๆ ลองย้อนคิดดูใหม่ ยกตัวอย่าง นัด ไทย-สิงคโปร์ ท่านทราบล่วงหน้าเป็นเวลาหลายเดือน หากท่านกำหนดสนามที่แน่นอนตั้งแต่ต้น
สมมติว่าเป็นสนามศุภชลาศัย เวลา 19.00 เพราะเป็นวันทำงาน
สมมติ ท่านให้ใครสักคนจัดทำโปสเตอร์เพื่อโปรโมทตามสนามไทยลีก ตามมหาวิทยาลัย ตามห้างสรรพสินค้า และที่ต่างๆ (ซึ่งไม่ต้องจ่ายเงิน)
สมมติ โปสเตอร์นั้น ใช้ "จุดยืนของทุกคน" (คือส้นเท้า) คิด แล้วตั้งชื่อโปสเตอร์ว่า "Match of the Year"...Thailand vs Singapore... "โอกาสล้างตา มาถึง (อีก)แล้ว"
สมมติท่านถามแฟนบอลที่บ้าๆ (เช่น พวกกลุ่มเชียร์ไทยฯ) ว่าจะสร้างกระแสอย่างไรกันดี จะอัดมิวสิคลงยูทูบดีมั้ย จะจัดขบวนแห่แถวสีลม-สยามดีมั้ย เอาให้คนสนุกๆ ลงสะเก็ดข่าว ให้คุณสรยุทธ์ คุณกนก คุณเอกราช เขาพูดถึง (ที่สำคัญท่านต้องเป็นคนถาม เพราะมันเป็นงานของท่าน แฟนบอลส่วนใหญ่ก็มีงานของเขา แต่ที่เขาเชียร์บอล เชียร์ทีมชาติไทย เพราะเขาอยากมาช่วยฟุตบอลไทย ไม่ใช่ช่วยท่าน)
สมมติ อีกนะครับ ว่า ท่านพานักบอลเก่งๆ ปีเตอร์ แลงค์ หน้าตาหล่อๆ ไปออกรายการสุริวิภา รายการ เจาะใจ รายการตีสิบ รายการจมูกมด รายการสารพัดรายการ เชิญชวนให้เขามาดูบอลนัดอุ่นเครื่องธรรมดาๆ ที่ว่านี้ แต่นำเสนอมันในฐานะ "ศึกแห่งศักดิ์ศรีที่จะพลาดไม่ได้"
สมมติ ว่ามีคนศรัทธาในการทำงานของท่านและองค์กรของท่าน พร้อมที่จะช่วยโปรโมทให้คนเข้ามาชมการแข่งขันของทีมชาติไทย (ซึ่งเขามีศรัทธาให้อยู่แล้ว)
สมมติว่า มีคนเดินหลงๆ เข้ามาในสนามศุภฯ 2,000 คน (แค่ฝั่งเชียร์ไทยก็เกินแล้ว) เก็บต่ำสุดคนละ 100 บาท ท่านก็จะเก็บได้ 200,000 บาท
สมมติว่า คนเขามีศรัทธาให้สมาคมเยอะหน่อย มีคนเข้ามามากหน่อย 5,000 คน เก็บต่ำสุดคนละ 100 บาท ท่านก็จะเก็บค่าตั๋วได้ 500,000 บาท
แต่เฮ้ย นี่มัน Thailand vs Singapore เลยนะเว้ย โปรโมทขนาดนี้ ต้อง 10,000 คนขึ้นไป เก็บต่ำสุด 100 บาท ท่านก็จะเก็บค่าตั๋วได้ 1 ล้านบาท
สมมติว่าท่านมีค่าเช่าค่าเจ้าหน้าที่รวมกัน 100,000 บาท ท่านก็ยังมีเงินเหลือเข้าสมาคมเอาไปบริหารต่อเพื่อส่วนรวม ...ถึงมันจะเป็นเงินน้อย แต่มันก็เป็นเงินบริสุทธิ์ และเกิดจากการทำงานร่วมแรงร่วมใจอย่างแท้จริง
เห็นมั้ยครับ ว่า "สมาคมเสียอะไรไป" จากการคิดมักง่ายและไม่ให้เกียรติทีมชาติไทย
แฟนบอลควายๆ อย่างผมก็คิดได้แค่นี้ล่ะครับ------------------------------------------
ภาพที่แฟนบอลควายๆ ช่วยกันอัญเชิญธงชาติไทยทุกครั้งที่ทีมชาติไทยลงแข่ง
ภาพโดย คุณ Prapoj
--------------------------------------------
http://www.cheerthaipower.com/webboard/index.php?topic=16250.0
THE POWER
สวัสดี บุคคลทั่วไป!