ขอบคุณสมาคมฯ จากอัฒจันทร์ไม้สู่มาตรฐานอาชีพ
“ไม่ ได้ สมุทรปราการจะไปใช้สนามเดียวกับไทยซัมมิทไม่ได้ ลีกเดียวกัน ดิวิชั่นเดียวกัน จะใช้สนามร่วมกันไม่ได้ เพราะ 1 สนามสามารถใช้ได้เพียง 1 สโมสรเท่านั้น เพื่อแนวทางการพัฒนาแฟนคลับที่ดี ” เหตุผลโลกแตกจากสมาคมฯ และนี้คือจุดเริ่มต้นของทุกปัญหาเรื่องสนามของสมุทรปราการเอฟซี
สโมสร ฟุตบอลจังหวัดสมุทรปราการ หรือที่เรียกกันว่า “สมุทรปราการเอฟซี” ทีมระดับจังหวัดต้องพเนจรหาสนามที่จะใช้ทำการแข่งขัน ฟุตบอลอาชีพลีกภูมิภาค ดิวิชั่น2 โดยสิ่งแรกที่สโมสรคำนึงถึงคือ “ต้องอยู่ในจังหวัดสมุทรปราการ” สวนทางกับแนวทางของสมาคมฯที่ต้องการ “ความเป็นมาตรฐานระดับ 5 ดาวของเอเอฟซี”
เจอ อุบัติเหตุตั้งแต่นัดแรก จนต้องไปใช้สนามธนาคารกรุงเทพ ต่อด้วยกกท.บางพลี และได้กลับมาใช้นายเรือ สุดท้ายไปยื้อกันสุดๆที่ ม.หัวเฉียว ทุกสนามที่สมุทรปราการเอฟซีได้ใช้งานที่ผ่านมานั้น มาตรฐานสนาม สิ่งอำนวยความสะดวก ห้องต่างๆ รั้ว ป้าย อัฒจันทร์ไม้ ทุกสิ่งอย่างไม่ผ่านมาตรฐานระดับ 5 ดาวของเอเอฟซี โดนกดดันทุกอย่างถึงขั้นยื่นคำขาดหากหาสนามไม่ได้ก็ ถอนทีมไปซะ...ไม่งั้นจะไม่มีการแข่งขันเกิดขึ้นของสมุทรปราการเอฟซีในเลก 2 ยังดีที่ได้ ท่านวรวีร์ มะกูดี และท่าน องอาจ ก่อสินค้า ช่วยประสานงานให้สามารถใช้งานที่ สนามศูนย์ฝึกกีฬาเฉลิมพระเกียรติบางมดได้แม้ไม่ได้อยู่ในจังหวัดสมุทรปราการ แต่ก็ยังเฉี่ยวๆ
สิ่ง ที่เปลี่ยนไปคืออัฒจันทร์ไม้ สู่อัฒจันทร์ปูน เก้าอี้แม้จะเก่าไปหน่อยแต่ได้มาตรฐาน ทุกอย่างได้มาตรฐานการจัดการแข่งขันระดับ 5 ดาวของเอเอฟซี สิ่งอำนวยความสะดวกทั้งห้องกรรมการมีห้องน้ำในตัว ห้องทีมเหย้า ห้องทีมเยือน ห้องน้ำชาย-หญิงสำหรับแฟนบอล เครื่องขยายเสียง ประตูเข้าออกต่างๆ เจ้าหน้าที่กับแฟนบอลเป็นสัดส่วนมาก ทำให้การเก็บค่าชมการแข่งขันเป็นกอบเป็นกำสร้างรายได้เข้าสโมสร ก้าวสู่ความเป็นอาชีพมากขึ้น จากอัฒจันทร์ไม้ที่เก็บค่าตั๋วได้เพียงหลักร้อย จนวันนี้ทะลุหลักหมื่นบาท โดยนัดล่าสุดเกมกับนครนายกสามารถเก็บได้ถึง 16,400 บาท หากวันข้างหน้าแฟนคลับเจ้าถิ่นขยายตัวมากขึ้น และแฟนคลับทีมเยือนแต่ล่ะทีมมีจำนวนตามมาเชียร์เกมเยือนมากขึ้น ก็จะสามารถเพิ่มรายได้ให้แต่ล่ะทีมอีกเป็นเท่าตัว
ขอขอบคุณสมาคมฯ ที่พลักดันทุกๆอย่าง ยกทุกๆมาตรฐาน ทำให้แต่ล่ะสโมสรมีรายได้ซึ่งนั้นหมายถึง การเข้าใกล้ความเป็น “ฟุตบอลอาชีพ”เจอพิษเลือกตั้งซ้อมที่โรงเรียนนายเรือ จนต้องย้ายวัน และสนามไปใช้สนามธนาคารกรุงเทพ อุดมสุข
ต้องไปขอไทยซัมมิทใช้งานที่สนาม กกท.เคหะบางพลี สมุทรปราการ
ซึ่งได้ใช้แค่เกมเดียวเท่านั้น
สนามโรงเรียนนายเรือ สมุทรปราการ ที่เปรียบเหมือนบ้านของเรา
แต่ก็โดนค่าเช่าสนามไป 2 หมื่นบาทต่อเกม
สนามฟุตบอลมหาวิทยาลัยหัว เฉียวเฉลิมพระเกียรติที่ได้
"เสี่ยแป๊ะยิ้ม" อัครชัย แตงอ่อน ผู้จัดการทีมสมุทรปราการเอฟซี ติดต่อประสานงานให้
แม้จะปรับปรุงหลายขนาน ทุกรูปแบบ ก็ไม่สามารถยื้อที่จะใช้จนจบฤดูกาลได้
สำหรับสนามของ ม.หัวเฉียวแห่งนี้
อลังการ!!! และได้มาตรฐานสมใจสมาคมฯ และเป็นมืออาชีพ เพราะสโมสรสามารถ
เก็บค่าเข้าชมเกมการแข่งขันได้ เพื่อก้าวสู่ความเป็น "ฟุตบอลอาชีพ"
http://www.samutprakarnfc.com/index.php?mo=14&newsid=120724