สมุทรปราการ เอฟซี ผจญภัยในเส้นทางวิบากกรรมดิวิชั่น 2 ภาคกลางและตะวันออก ผ่านพ้นไปแล้ว 2 ใน 3 ของจำนวน 15 นัด ในเลกแรก 2011 ด้วยผลงานอยู่อันดับที่ 7 ใน 16 ทีม ชนะ 4 เสมอ 2 แพ้ 4 ประตู
ได้ 14 ประตูเสีย 13 คะแนน 14 แต้ม ผลต่างประตู + 1 โดยเฉพาะนัดที่ 10 เมื่อวันเสาร์ที่ 7 พ.ค. 2554 ออกไปเยือนแพ้ทั้งผลการแข่งขันและแพ้ทั้งกองเชียร์ เมื่อครบ 10 นัด ปราการ มีคะแนนห่างจากอันดับที่
1 ราชบุรี อยู่ 10 แต้ม ห่างอันดับที่ 2 สมุทรสาคร อยู่ 8 แต้ม และ ห่างอันดับที่ 3 ระยอง อยู่ 6 แต้ม
นักเตะและทีมปราการ เอฟซี แพ้ สาคร 0 - 1 ด้วยผู้เล่นตัวจริง 3 ใน 11 คนแรก จากนัดเหย้าแพ้เมืองกาญจน์ 1 - 2 ไม่ได้ลงเล่นในนัดนี้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น นักเตะเบอร์ 13 ระ / ธีรพงษ์ ราชดุษฏี แบ็คขวา,
เบอร์ 23 ยอร์ช / สุทัศน์ อินเจริญ กลางรับ, และ เบอร์ 10 ยุน ซู / ฮัน ยุน ซู กลางรุก โดนใบแดงสำหรับระ และ โดนพักแข้ง 1 นัด จากการสะสมใบเหลืองครบเต็มโควต้าสำหรับ ยอร์ช และ ยุน ซู คาดหมาย
ว่านัดที่ 11 การเล่นในสนามฟอร์ซ่า นักเตะ 11 ตัวแรก น่าจะเป็นชุดที่สมบูรณ์ที่สุดที่พร้อมเปิดเกมบุกรุกเอาชัยเบิกร่องเจาะสระแก้ว ซิตี้ ในการตามล่าหาชัยชนะเก็บ 3 แต้มแรกของนัดเหย้าปราการ เอฟซี ได้ซะที
ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น ปราการ เอฟซี แพ้ทั้งผลการแข่งขัน และ แพ้ทั้งกองเชียร์ ด้วยกองเชียร์ที่เรียกตนเองว่า ฟอร์ทเทรสเสี้ยน (Fortressians) หรือ ป้อมปราการ ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ที่ไม่น่าจดจำ แต่คง
ต้องเก็บไว้เตือนใจตนเองว่า นี่หรือ คือ กองเชียร์ที่เคยหยิ่งทระนงในศักดิ์ศรีว่า เชียร์ได้ตลอดเวลา 90 นาที ไม่มีหยุดสุภาพบุรุษสมุทรปราการ กองเชียร์ที่ห้าวหาญดุดันสนุกสนานเร้าใจในการเชียร์ กองเชียร์ที่แม้
แต่กองเชียร์อุลตร้าเมืองทอง ทีมเมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ด ในระดับไทยพรีเมียร์ลีก ก็คงยังตราตรึงจดจำชื่อป้อมปราการ จดจำเสียงกระหึ่มลือลั่น จดจำภาพการเชียร์ฉบับจัดเต็ม ให้เป็นของฝากที่ประทับใจ
ด้วยอภินันทนาการจากหัวใจป้อมปราการ
ด้วยความไม่พร้อมของกองเชียร์ปราการ เอฟซี ทั้งคนนำเชียร์เอง ทั้งกองเชียร์แต่ละคนเอง ทั้งความเหนื่อยล้าอ่อนเพลียของกองเชียร์บางท่านที่ต้องลงแข่งขันฟุตซอลแฟนคลับ กับ ทีมปลาตีนพิฆาต สมุทรสาคร
โดยเฉพาะอย่างยิ่งความไม่พร้อมของการบูมในช่วงครี่งเวลาหลังที่ปฏิบัติกันมาทุกครั้ง การขึ้นมาล่าช้าของกองเชียร์บนสแตนด์เชียร์ จวบกระทั่งเขี่ยบอลเริ่มเล่นไปในครึ่งหลังหลายต่อหลายนาทีแล้ว จึงเริ่มกลับมา
ส่งเสียงเชียร์แบบคนใกล้จะขาดใจ ไม่มีพลัง ไม่มีความดุดัน ไม่มีอะไรให้จดจำเลยในวันเสาร์ที่ 7 พ.ค. 2554 ที่ผ่านมา ที่ผิดหวังมาก คือ จำนวนกองเชียร์ป้อมปราการที่ไปในวันนั้น ถือว่ามีจำนวนอยู่ไม่น้อยเลย
แต่กลับละเลยกัน เอาแต่พิงรั้วพิงเชือกทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่มากหน้าหลายตา ไม่ยอมออกมาจากมุม จะสู้ก็ไม่สุ้ จะเชียร์ก็ไม่เชียร์เต็มที่ จะยอมแพ้ก็ไม่ยอมโยนผ้าขาวว่าไม่สู้แล้ว ให้รู้แล้วรู้รอดกันไป อาจจะเป็นเพราะถือ
ว่า "ไม่ใช่หน้าที่" แต่ละคนแค่เข้ามาดูมาชมบอลแข่งเฉย ๆ ก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย ถือว่าเป็นการเข้าใจผิดอย่างแรงเกี่ยวกับประวัติ ความเป็นมา และ / หรือ ตำนาน กองเชียร์ฟอร์ทเทรสเสี้ยน ที่ได้รู้ ได้เห็น
ได้ยิน ได้ร่วมเหตุการณ์มาด้วยกันว่ามันไม่ใช่แล้ว เหตุการณ์แบบนั้น ความประทับใจแบบนั้น มันได้ตายซาก เหือดแห้งหายสาบสูญไปหมดแล้ว
เวลาในครึ่งหลังก็ไม่ได้บูม คนนำเชียร์ก้ไม่ขึ้นมาทำหน้าที่ กองเชียร์ที่เหลือต่างก็นั่งหรือยืนนิ่งเฉยกัน กลายเป็นที่ตลกขบขันหัวเราะเยาะเย้ยหยันกันเอง เพราะต่างคนต่างถือว่า "ไม่ใช่หน้าที่" เวลาเพิ่งผ่านไป
แค่ครึ่งแรก นักเตะเพิ่งเริ่งเขี่ยบอลเล่นในครึ่งหลัง แต่เวลาศักดิ์ศรีของความเป็น ฟอร์ทเทรสเสี้ยน ป้อมปราการ ได้หยุดหายใจความมีชีวิตลงในวินาทีนั้นแล้ว ได้แต่ขอให้ "น้องริว / ลูกพี่วิ มหาชัย " ตีกลองสแนร์
และ "น้องตุลย์ / ปืนเสือหมอบ" ตีกลองใหญ่และนำเชียร์แทนชั่วคราวโดยไม่มีการบูมในครึ่งหลัง ก่อนที่ "น้องแพ็ตตี้ / ลูกเสธ.อี๊ด" จะขึ้นมาช่วยนำเชียร์อีกแรงใจ คงทำได้เท่านี้ในเวลานั้น เพราะคงอายเด็ก
และอายน้องเหลือเกิน ถ้าผมซึ่งเป็นกองเชียร์ป้อมปราการคนหนึ่งจะไม่ช่วยส่งเสียงเชียร์ให้กำลังใจนักเตะปราการ เอฟซี ต่อไป และ ผมซึ่งเป็นคนคงอายหมามากถ้าจะถอดใจยอมแพ้อะไรง่าย ๆ ด้วยการทิ้งเพื่อนกอง
เชียร์ ทิ้งทีมปราการ แค่เป็นเพราะ "กลัวแพ้" มากกว่า การอยู่ร่วมต่อสู้เคียงข้างกันกับเพื่อนกองเชียร์ป้อมปราการและทีมสมุทรปราการ เอฟซี ต่อ เพราะ "กล้าชนะ" เพื่อปลื้มปิติดีใจเมื่อวันนั้นที่รอคอยมาถึงจริง
มันก็คงไม่ใช่หน้าที่ของใครคนเดียวที่จะสามารถกระทำอะไรได้ในส่วนที่เกี่ยวกับกองเชียร์ด้วยกันแต่เพียงลำพังตัวคนเดียว แต่สิ่งต่าง ๆ ที่จะทำ หรือ พยายามทำนับแต่นี้ คงไม่ใช่การทำเพราะมันเป็นหน้าที่ แต่
ขอทำด้วยหัวใจที่เหลืออยู่ก่อนที่มันจะหลุดลอยไปจากทีมสมุทรปราการ เอฟซี จะทำให้เต็มที่สุดหัวใจตนเอง จะไม่เรียกร้องอะไรจากเพื่อนกองเชียร์อีก ใครทำได้แค่ไหน เพียงใด ก็เท่านั้น ถ้าสุดหัวใจแล้วถือว่ายิ่ง
ใหญ่ที่สุดแล้ว ไม่ว่าจะเหลือกองเชียร์ป้อมปราการ สมุทรปราการ เอฟซี สักกี่คนในแต่ละนัดนับตั้งแต่นัดที่ 11 ที่จะร่วมกันส่งเสียงเชียร์ ร่วมกันบูม ร่วมกันให้กำลังใจนักเตะปราการ เอฟซี แม้ว่าการเชียร์ด้วยจำนวน
น้อยนิดแต่ใจใหญ่หึกเหิมพร้อมเพรียงกันในท่ามกลางกองเชียร์มากมายของคู่แข่งขัน คงเป็นเกียรติยศที่ยิ่งใหญ่ ดีกว่า ยืนเชียร์เหงาตายซากในท่ามกลางวงรอบของกองเชียร์ปราการมากมายแต่ไร้พลังใจนักสู้ เพราะ
กลัวแพ้คอยหลอกหลอนแบบฝังจิตผังใจ
หวังใจว่านัดสุดท้ายของเลกสอง หรือ นัดที่ 30 ของฤดูกาลปี 2011 ผมหันซ้ายขวาคงได้เจอะเจอเพื่อนพ้องน้องพี่กองเชียร์ฟอร์ทเทรสเสี้ยน ป้อมปราการ ด้วยกันบ้างก็เท่านั้น ขอได้เจอหัวใจปราการ เอฟซี เหมือน
กัน ในวันอาทิตย์ที่ 15 พฤษภาคม 2554 ณ สนามฟอร์ซ่า เวลา 16.00 น. ในการชุบชีวิตฟอร์ทเทรสเสี้ยนให้ตื่นฟื้นขึ้นมามีชีวิตชีวาและลีลาโลดแล่นลิ่ว กับ ปราการ เอฟซี กล้าชนะ สระแก้ว ซิตี้