สำหรับกระทู้นี้ผมขออนุญาตใช้เป็นตอนพิเศษ เนื่องจากผมเคยคิดว่า "วีรบุรุษ"ผู้นี้ผมจะเขียนถึงเมื่อ "ปราการ" ทีมรักของผมจบมินิลีคแล้ว (ไม่ว่าจะขึ้น ดิ.1หรือไม่ก็ตาม)
แต่แล้วมันอดใจไม่ได้จริง ๆ ด้วยความศรัทธาบวกกับข่าวลือหลาย ๆ อย่างที่หลายท่านได้พอทราบกันมาทั้งจะมีการปลดโค้ช ประจวบเหมาะกับวันไปอุ่นเครื่องกับทีมชาติลาว ทำไมป๋าแหยมไม่มายืนคุมข้างสนามเหมือนเช่นเคย ผมจึงขออนุญาตนำข้อมูลรวมทั้งเรื่องราวทั้งหลายมาชี้แจงและขออนุญาตยกย่องสดุดีผู้ชายคนนี้ไปด้วยพร้อม ๆ กัน
วันชัย แหยมสลัม หรือ "ป๋าแหยม" คืออีกหนึ่งเสียงคำรามตะโกนกึกก้องจากปากของเหล่ากองเชียร์อย่างพร้อมเพียงกันในทุก ๆ นัด ทุก ๆ สนาม ไม่ว่าผลการแข่งขันจะเป็นอย่างไร
"ราชสีห์แห่งป้อมปราการ" ผู้นี้นั้นสร้างความตกตะลึงแห่งวงการฟุตบอลเมืองไทยมาแล้ว จากทีมที่กำลังจะยุบทีมแต่กลับคว้าแชมป์มาครองได้อย่างสง่าผ่าเผย สุดยอดฝีมือจริง ๆ ขอคาราวะจากหัวใจ ถามว่าหลาย ๆ ครั้งป๋าแหยมท้อไหม "ท้อครับ เหนื่อยครับแต่ไม่เคยถอย แต่เวลาผมท้อผมเหนื่อย ผมจะมองไปยังพวกคุณ" นี่คือคำพูดที่ออกมาจากปากผู้ชายที่ชื่อวันชัย แหยมสลัม
บางครั้งบางนัด "ป๋าแหยม"ป่วยเข้าโรงบาล แต่ด้วยความดื้อกลับกระชากสายน้ำเกลือเพื่อไปยืนคุมทีมรักด้วยตนเองข้างสนาม แฟนบอลและลูกทีมเปียกฝนป๋าเปียกด้วย แดดเผากายป๋าไหม้ด้วย เป็นไงเป็นกันเคียงข้างกันแบบนี้ล่ะวะ
ผมขออนุญาตเผยแพร่ข่าวสารข้อมูลหน่อยนะครับ นัดอุ่นเครื่องกับทีมชาติลาว "ไม่ใช่ป๋าแหยมไม่ได้คุมทีม" เนื่องด้วยน้องแจนลูกสาวคนเล็กของป๋าแหยมป่วยเป็นไข้เลือดออกอยู่ รพ. แต่ด้วยหัวใจของผู้ชายชื่อ"วันชัย" ทิ้งทีมรักไม่ได้ ต้องภาระหน้าที่มาก่อนเรื่องอื่นเสมอ เรียกได้ว่าวันนั้น "ป๋าแหยมเนื่อยทั้งกายเหนื่อยทั้งใจ" ท้ายนี้ขอเรียนเชิญชาวปราการทุกท่าน เข้ามายกย่องสดุดีเพื่อเป็นเกียรติให้แก่วีรบุรุษหัวใจราชสีห์
"ป๋าแหยม วันชัย แหยมสลัม" ผู้ซึ่งเหนื่อยทั้งกายเหนื่อยทั้งใจ ยอมพลีหัวใจเคียงคู่ปราการตลอดมา
"ป๋าแหยม ราชสีห์แห่งป้อมปราการ"