สามแต้มแรกในริจินอล แชมเปี้ยนส์ ลีก สำหรับ "ป้อมปราการ" ยังคงต้องรอต่อไป อีกน้อยๆหนึ่งสัปดาห์นะครับ
น่าจะเป็นอีกหนึ่งสัปดาห์ที่ทีมงานฟ้า-ขาว ต้องยืนอยู่บนคำถามและเสียงบ่นกระปอดกระแปดของแฟนๆ หลังจากที่ถนนสายแชมเปี้ยนส์ ลีก สู่ ดิวิชั่น 1 ที่เฝ้ารอ ดูจะขรุขระและโหดหินกว่าที่คิดไว้ในทีแรกเยอะทีเดียว
แต่ก็เป็นสิ่งที่ทีมงานต้องก้มหน้ายอมรับกับความผิดหวัง อันเกิดจากความคาดหวังของแฟนๆนะครับ
สองแต้มอุ่นๆ จากสามนัดที่ลงหวดในรายการนี้ ดูท่าจะกลายเป็นแต้มร้อนๆที่ทำให้ปราการอยู่นิ่งไม่ได้แล้ว หากอยากขึ้นไปผงาดง้ำบนลีกรองของประเทศ
จะว่ายากก็ยาก แต่จะว่าท้าทายก็ยังไม่เสียหายเท่าไหร่ หากเราก้มลงไปมองที่บางกอก และเงยหน้าไปมองที่ผู้นำอย่างระยอง
ต้องบอกว่ายังมีหวัง แม้จะโหดไปหน่อยก็ตาม
เกมกับระยอง ผมได้ไปนั่งอยู่ทางฝั่งระยอง (เนื่องจากไปนอนบ้านเพื่อนที่ระยอง ก็เลยถือโอกาสลองของนั่งเชียร์ปราการแบบเงียบๆ กับเพื่อนที่ฝั่งระยองดู) ซึ่งจากรูปเกมที่เห็น ต้องบอกว่าปราการเราเล่นดีขึ้นกว่านัดกับบางกอก
แต่แพ้เพราะ "ของดำ" จากระยองแท้ๆ
เรื่องดีๆที่เห็นในเกมนี้ก็คือ การกลับมาของ "The Duck" กำแพงเหล็กที่แฟนๆคิดถึง บวกกับฟอร์มที่เหนียวหนึบนุ่มหนับของ "เจ้าจอม" ยิ่งทำให้พลพรรคฟ้า-ขาว ค่อนข้างวางใจในหลังบ้านได้ กับเกมที่เหลือให้ไล่ล่าอีกตั้ง 7 นัด!
นั่งนับเล่นๆกับจังหวะที่เจ้าจอมโชว์การเซฟลูกยากๆไม่ให้ปราการต้องเสียประตู เชื่อมั้ยครับว่ามีถึง 5 ครั้ง!
ส่วนสองลูกที่เสียไปนั้น ต่อให้เป็น "กวิน" หรือ "ปีเตอร์ เช็ค" ก็เสียหมาเหมือนกันแหละครับ
เกมในช่วงครึ่งแรก ทั้งปราการและระยอง ต่างเปิดเกมเข้าใส่กันแบบสนุก ทั้งเร็วและหนักในเกมด้วยกันทั้งคู่ นักเตะผิวสีของระยองแต่ละคนทั้งคล่อง ทั้งแกร่ง เมื่อบวกกับเสียงเชียร์ของเจ้าถิ่นและความคุ้นเคยกับสนาม
หลายๆจังหวะเลยทำให้นักเตะของเราเอาไม่อยู่เหมือนกัน
แต่ปราการ ก็คือปราการนะครับ
อาวุธหนักของเรา ที่สามารถทำลายล้างตาข่ายคู่ต่อสู้ได้เสมอๆก็คือ "ลูกเซตพีซ" ซึ่งทั้งคนเปิด+คนยิง ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน
"กอล์ฟ เดอะ ก็อด" ที่บรรจงตักไปให้ "เดอะ มัส" คู่พาร์ตเนอร์มหาภัยคู่เดิมนี่เองครับ ที่ช่วยเปลี่ยนสกอร์ 1-0 เป็น 1-1 ให้ปราการได้ฮึกเหิมก่อนหมดครึ่งแรกไม่กี่วินาที ไม่ว่าจะเปลี่ยนโค้ชคนไหนมาคุม แต่อาวุธหนักจากลูกเซตพีซ ยังคงฝังอยู่ในหนอกของป้อมปราการไปแล้วล่ะครับ
สารภาพว่าวินาทีนั้น แอบฝันถึงสามแต้มไปแล้วผม
แต่ประตูที่สองของระยอง ทำให้โมเมนตัมของเกมเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ปราการตกเป็นฝ่ายไล่ตามทั้งสกอร์ และรูปเกมอย่างสมบูรณ์แบบ มีเพียงจังหวะโต้กลับให้ได้ลุ้นตัวเกร็งแค่ไม่กี่ครั้งเท่านั้น ก่อนที่หนังม้วนเดิมจะถูกฉายซ้ำๆ นั่นก็คือ
เจ้าจอมเซฟเป็นว่าเล่น
อย่างที่บอกในย่อหน้าก่อนนั่นแหละครับ เรื่องดีๆที่ชาวปราการน่าจะยิ้มออกได้ก็คือ
-ฟอร์มมหากาฬของ "ชูเกียรติ ฉิมวงศ์"
-การคืนสังเวียนแข้งของ "พงษ์สิริ ยะกัณฐะ" หรือ The Duck กำแพงเหล็กแห่งป้อมปราการ
-การผลิตประตูได้อย่างต่อเนื่องของ "เดอะ มัส" (ขออย่างเดียว อยากให้พี่มัสวิ่งไล่บอลมากกว่านี้อีก พี่จะแกร่ง และได้ใจแฟนๆอีกมาก)
และข้อสุดท้าย ก็คือแต้มในตารางที่ยังไม่ขาด เหมือนกับสายเอ!
ป้อมปราการอาจจะไม่สร้างความสบายใจให้กับเหล่ากองเชียร์เลย ทั้งสามนัดที่ลงสนาม
ต่อบอลไม่เนียน ยืนตำแหน่งผิดพลาด เคาะบอลช้า เสียบอลเร็ว ฯลฯ
แต่แนวโน้มทั้งหลาย ผมหวังว่ามันกำลังจะดีขึ้นๆนะครับ
เกมหน้ากับ เลย ซิตี้ อยากบอกว่าไม่ง่ายเลย
ดังนั้น ผมจึงอยากเห็น "พลังฟ้า-ขาว" ที่เต็มไปด้วย "ศรัทธา" กลับมายืนแหกปาก กระแทกมือ ถือเบียร์ เชียร์บอล กันให้แน่นสนามกรมศุลฯ ทั้งสามแสตนด์กันอีกครั้งนะครับ
นาทีนี้ ป้อมปราการของเราจะขาด "กำลังใจ" กับ "แรงเชียร์" จากใครไปไม่ได้เลย แม้แต่คนเดียว!
แม้กระทั่งคนที่เคยก่อเรื่อง, โยนเสื้อทิ้งในวันที่ดวลกับบางกอกก็เถอะ
มากันให้เต็ม เชียร์ให้สุดเสียง ทิ้งเรื่องข้องใจไว้ข้างหลัง รวมพลังให้เป็นหนึ่ง
ถนนสายดิวิชั่นหนึ่งยังไม่ตัน ขอแค่เสียงเชียร์จากแฟนๆเท่านั้น ที่จะช่วยขับเคลื่อนทีมให้เดินหน้าไปได้
ต่อให้ปราการจะปราชัยในวันนี้
แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่มีปาฎิหารย์ อันเกิดจาก "ศรัทธา" ของแฟนบอลนะครับ
'จาร์ยจักรี กับ ป๋าตุ้ย ทำให้เซ็งมาสามนัดแล้ว หวังว่านัดหน้า "ดูโอฟ้า-ขาว" จะทำให้กองเชียร์ได้เริงร่าซักทีนะครับ.
.........................................
ปล.เรื่องสุดท้าย ที่ผมอยากขอเปิดใจกับทีมงาน หวังว่าคงไม่โดนลบนะครับ
ผมว่าเวลาเราให้สัมภาษณ์ออกทีวี เราอย่าแสดงความมั่นใจว่าจะชนะคู่ต่อสู้เลยนะครับ มันกลายเป็นความกดดันที่ถูกโยนมาให้นักเตะกับกองเชียร์ไปโดยไม่รู้ตัว
อยากให้ตอบแบบเจียมเนื้อเจียมตัวดีกว่า หรือตอบแบบยกให้คู่ต่อสู้เป็นต่อก็ได้
เพราะมันจะกลายเป็นโยนความกดดันให้เค้าไปแบกรับ แทนที่เราจะต้องมาแบกรับเอง
ยอมเป็นรองในหน้ากระดาษ แต่กลายเป็นต่อเวลาลงไปฟาดแข้งดีกว่านะครับ