เสร็จศึกนัดที่ 29 ของสามทีมนำหัวแถวของกลุ่มภาคกลางและตะวันออก ได้ผลสรุปออกมาดังนี้
สระบุรี คะแนน 58 แต้ม ผลต่างประตู + 37
สมุทรปราการ คะแนน 58 แต้ม ผลต่างประตู + 27
ระยอง คะแนน 57 แต้ม ผลต่างประตู + 24
ในนัดที่ 30 วันอาทิตย์ที่ 19 กันยายน 2553 เริ่มเวลาแข่งขัน 16.00 น. ทั้งสามทีมต้องออกไปเยือนเพื่อ
ฟาดแข้งนัดสุดท้ายของเลกสอง "นัดแชมเปี้ยนส์" ค้นหาทีมชนะเลิศภาคกลางและตะวันออก ปี 2010
#5 อยุธยา VS สระบุรี #1 / #8 ราชบุรี VS สมุทรปราการ #2 / #14 อ่างทอง VS ระยอง #3
สระบุรี เอฟซี ดูเหมือนว่าจะได้เปรียบสมุทรปราการ และ ระยอง เพียงเสี้ยวเล็กน้อย หากขุนศึกหระรีชนะ
นักรบอโยธยา นักรบกรุงศรี อยุธยา เอฟซี ได้อย่างใจคิด แต่ฟุตบอลต้องลงแข่งขันกันในสนามให้รู้ดำรู้แดง
กันไปข้าง มิใช่ด้วยการเอาชนะกันจากมโนความคิดอ่านแค่อยู่ในใจแล้วมาตะโกนบอกคนอื่นให้รับรู้ว่าข้าคือ
แชมเปี้ยนส์แล้วเตรียมตัวเฉลิมฉลองแห่แหนกันเหมือนจัดขบวนแห่นางแมวขอฝน มันไม่ง่ายเช่นนั้นหรอก
เจ้า โบราณเขาถือกัน ทำอะไรแล้วยังไม่สำเร็จสมความมุ่งหมายแล้วไปจัดฉลองล่วงหน้าก่อน มันจะผิดหวัง
ไม่ประสบความสำเร็จและล้มเหลวลงอย่างสิ้นท่านะ
อีกประการหนึ่ง สระบุรี เอฟซี ต้องเผชิญวิบากกรรมต้องผจญลงเตะกับนักรบอโยธยา นักรบกรุงศรี อยุธยา
เอฟซี ขุนศึกหระรีอย่าคิดว่าง่าย อย่าหมายว่าชนะในบ้าน ณ แผ่นดินเมืองอโยธยาศรีรามเทพนคร แปลว่า
"ไม่แพ้" ตามความเชื่อของชาวฮินดูอโยธยาเป็นสถานที่ประสูติของพระรามเป็นภาคอวตารของพระนารายณ์
"พระผู้ปราบ" เพื่อลงมาปราบทศกัณฐ์ยักษ์ผู้กำแหงโอหัง เชื่อมั่นว่าอยุธยา เอฟซี จะลงเล่นนัดสุดท้ายเพื่อ
แฟนบอลกองเชียร์นักรบกรุงศรีทุกชีวิตด้วยการพิฆาตขุนศึกหระรีให้ดับแดดิ้นพ่ายแพ้และยกทัพหนีกลับไป
เยียวยาพวกพ้องตนที่แก่งคอยและท้องทุ่งทานตะวันที่มั่นของตน หระรีจึงเป็นได้แค่ทีมที่ใกล้รุ่งแค่นั้นเอง
เป็น "ฟ้าสางที่หระรี" ภาพหระรีที่ออกมาในวันอาทิตย์ที่ 19 กันายน 2553 จึงไม่ชัดเจนจึงไม่สดใส ได้
แต่อึมครึม ๆ เพราะมีมุมมืดของราตรีกาลปกคลุมเป็นเงาดำทมึนขึงอยู่อีกทั้งหระรีไม่สามารถทนแบกรับความ
กดดันมหาศาลที่ถาโถมกดลงตรงบ่าที่หนักอึ้งแทบจะทรงกายยืนอยู่ไม่ได้ต่อไปแล้ว
ระยอง เอฟซี อาจจะเจอคู่ต่อกรคือ อ่างทองที่ดูคล้ายว่าง่ายกว่าอีก 2 ทีมด้วยกันแต่วันอาทิตย์นี้อ่างทองจะ
ผันตนเองเป็นนักรบอาทมาตในอดีต 400 คน จากนักรบวิเศษชัยชาญ หาญกล้าปะทะทัพใหญ่พม่า ซึ่งคิดว่า
ปะทะทัพหลวงไทย 7,000 คน เมื่อ พ.ศ. 2302 นักเตะอ่างทองต้องเตะนัดสุดท้ายถวายชีวิตเพื่อรื้อฟื้นชื่อ
เสียงที่มลายสูญไปคราวออกไปเยือนผีเสื้อไฟ สระแก้ว ยูไนเต็ด แล้วพลาดท่าพ่ายแพ้ในสนามที่ปริ่มน้ำ ทำ
ให้สระแก้วชนะเป็นนัดแรกและเก็บสามแต้มเต็มได้เป็นนัดแรก นักรบวิเศษชัยชาญคงต้องรบพิฆาตและฆ่าม้า
ลำพอง ระยอง เอฟซี มาเซ่นสังเวยดวงวิญญาณของเหล่าบรรพชนวีรชนของพวกตนอย่างแน่นอน ระยองที่ว่า
เจอง่ายสุด ต้องกลายเป็นว่าเจอหนักหนาสาหัสที่สุดในสามทีม และด้วยบัดนี้ระยองเองเริ่มอ่อนล้า ละล้าละลัง
ระส่ำระสายและรวนเรในกระบวนทัพของตัวเองเพราะคะแนนน้อยกว่าทีมอื่นอยู่ด้วย ทำให้ระยองหนักใจอำลา
ไปเอง กลายเป็น "ฟ้าหลัวที่ระยอง" ถึงจะสว่างแล้วแต่ยังคงเป็นฟ้าสลัวมีหมอกแดดจำนวนมากล่องลอยบด
บังทัศนวิสัย ทำให้ความสามารถในการมองเห็นลดลงไป 3 เท่า นั่นหมายถึง 3 คะแนนที่จะต้องหลุดลอยไป
ด้วยของระยอง เอฟซี
สมุทรปราการ เอฟซี ด้วยประสบการณ์มากมายทั้งขุนพลนักเตะ และ กองเชียร์ ป้อมปราการ ทุกคน ทุกชีวิต
ต่างมีประสบการณ์ในนัดสุดท้าย "นัดแชมเปี้ยนส์" มาในฤดูกาลที่แล้วปี 2009 กับ กุหลาบเหล็ก โรสเอเซีย
ปทุมธานี ณ สนามคลองหก รังสิต ที่ป้อมปราการต้องชนะสถานเดียว พร้อมกับทีมคู่แข่งขันอยุธยา เอฟซี ต้อง
เสมอ หรือ แพ้ ขุนพลนักเตะปราการทำได้ ชนะ โรสเอเซีย 0 - 1 แม้ว่าต้องออกไปเยือน กองเชียร์สุดยอด
ป้อมปราการทุกหัวใจร่วมใจกันเชียร์กันดังสนั่นกึกก้อง ทุกคนต่างเค้นต่างแสดงออกมาให้เห็นถึงความศรัทธาว่า
มีอยู่ในตัวตนในหัวใจของกองเชียร์สุดยอดป้อมปราการจริง ๆ ทำให้ข้อความ ด้วยศรัทธา แม้ขอบฟ้าก็ไปถึง
เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นไม่ใช่นิยาย
ด้วยสมุทรปราการ เอฟซึ คว้าแชมป์ภาคกลางและตะวันออก ปี 2009 แล้วทำไมพวกเรา ขุนพลนักเตะปราการ
และ กองเชียร์สุดยอดป้อมปราการ จะคว้าแชมป์ภาคกลางและตะวันออก ปี 2010 อีกครั้ง ในนัดสุดท้ายแห่ง
เกมส์ไม่ได้ในเมื่อ "ฟ้าขาวใสที่ปราการ" ขุนพลนักเตะพร้อม กองเชียร์สุดยอดป้อมปราการพร้อม แชมป์
ภาคกลางและตะวันออกปี 2010 พร้อมเป็นของทีมสมุทรปราการ เอฟซี ด้วยการออกไปเยือนและพิฆาตมังกร
แห่งลุ่มน้ำแม่กลอง ราชบุรี เอฟซี คว้าชัยชนะและเก็บสามแต้มสุดยอดป้อมปราการออกมาจากถ้ำมังกรเท่านั้น