หากแม้นว่ากองเชียร์ฟอร์ทเทรสเสี้ยนไม่ว่าจะมีจำนวนพลมากน้อยกี่ชีวิตก็ตาม ที่จะเดินทางตามทีมป้อมปราการ / สมุทรปราการ
เอฟซี รองแชมป์ภาคกลางและตะวันออก ทีมอันดับที่ 4 ในรอบแชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งปราการต้องการชัยชนะในนัดที่ 10 นัดสุด
ท้ายนี้เพื่อได้สิทธิการเล่นเพลย์ ออฟ จับสลากประกบคู่แข่งขันเหย้าเยือนกับทีมอันดับที่ 13 - 16 ทีมใดทีมหนึ่งในดิวิชั่น 1 นี้
ด้วยการเดินทางไกลเป็นระยะทางเกือบ 900 กิโลเมตร จากทะเลอ่าวไทยซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของมหาสมุทรแปซิฟิกล่องใต้ไปยัง
เส้นขอบฟ้าแสนไกล ณ เกาะสวรรค์วิลาวัลย์หนึ่งไม่มีสองในทะเลอันดามันซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของมหาสมุทรอินเดีย ออกไปเยือน
กิเลนทะเลใต้ / เอฟซี ภูเก็ต แชมป์ภาคใต้ ทีมอันดับที่ 2 ในรอบแชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ต้องการชัยชนะในนัดนี้เหมือนกัน เพื่อได้ชื่อ
ว่าเป็นแชมป็กลุ่ม บี
สิ่ง หรือ สถานที่ ที่จะทำให้เรารู้สึกว่ากำลังเข้าเขตจังหวัดภูเก็ต คงเป็นสะพานสารสิน ที่สร้างข้ามช่องปากพระเพื่อเชื่อมระหว่าง
เกาะภูเก็ตตรงบริเวณท่าฉัตรไชยกับท่านุ่น จังหวัดพังงา สะพานสารสินมีความยาวทั้งหมด 660 เมตร เริ่มดำเนินการตามนโยบาย
ในปี พ.ศ. 2494 แล้วมาก่อสร้างใหม่อีกครั้งในปี พ.ศ. 2508 สำเร็จและเปิดให้ใช้ได้เมื่อ วันที่ 7 ก.ค. 2510 ด้วยงบประมาณ
28,770,000 บาท (ยี่สิบแปดล้านเจ็ดแสนเจ็ดหมื่นบาทถ้วน) ต่อมาได้มีการก่อสร้างสะพานเทพกษัตรีเป็นสะพานที่สองที่เชื่อม
ระหว่างเกาะภูเก็ตกับพังงา คู่ขนานกับสะพานสารสิน โดยกำหนดให้ใช้สะพานสารสินเป็นสะพานขาออกจากจังหวัดภูเก็ต ส่วน
สะพานเทพกษัตรีเป็นสะพานที่รถใช้เดินทางเข้ามาจากจังหวัดพังงา และจะมีสะพานศรีสุนทรเป็นสะพานที่สามที่กำลังก่อสร้างตรง
กลางระหว่างสะพานสารสิน และ สะพานเทพกษัตรี
เมื่อเอ่ยถึงสะพานสารสินต้องนึกถึงเรื่องราว "สะพานรักสารสิน" ตำนานโศกนาฏกรรมแห่งความรักของชายหนุ่มที่แสนต่ำต้อย
เป็นเพียงคนขับรถสองแถวและรับจ้างกรีดยางชื่อว่า "โกไข่ หรือ โกดำ" ฝ่ายหญิงสาวชื่อว่า "อิ๋ว" นักศึกษาวิทยาลัยครูที่มีฐานะ
ดีสูงส่ง ความรักของหนุ่มสาวถูกขัดขวางความรักอย่างหนักจากผู้เป็นพ่อของหญิงสาว ไม่ว่าทั้งคู่จะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะ
พิสูจน์ให้ผู้เป็นพ่อฝ่ายหญิงได้เห็นถึงความตั้งใจและ "รักแท้" ที่ทั้งสองมีให้แก่กันแต่ไม่ว่าจะทำอย่างไร สุดท้ายก็ไม่เป็นผล ใน
ที่สุดเมื่อความรักถึง "ทางตัน" วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2516 "โกไข่ และ ครูอิ๋ว" ก็ได้ตัดสินใจเอาผ้าขาวม้าผูกมัดตัวทั้งสองติด
กันแล้วกระโดดจากลางสะพานสารสินลงสู่ก้นบึ้งพื้นน้ำเบื้องล่าง ทิ้งเรื่องราว "ความรักที่เป็นอมตะ" ให้ผู้คนได้กล่าวขานมาเนิ่น
นานนับตั้งแต่บัดนั้นจวบกระทั่งปัจจุบันบัดนี้
ด้วยศรัทธา ... แม้ขอบฟ้าก็ไปถึง ณ ริมฝั่งทะเลอันดามัน "อันดามัน" ในความหมายที่ว่า "ดินแดนแห่งความฝัน" หรือ "ที่สุด
แห่งใจ" เส้นทางเดินทางจากจังหวัดพังงาไปสู่เกาะภูเก็ตแม้ไม่มี "สะพานรักสารสิน" เหล่ากองเชียร์ป้อมปราการที่ร่วมมือร่วม
ใจกันก่อร่างสร้างตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาอย่างจริงจังมาตั้งแต่ พ.ศ. 2552 ด้วยบรรยากาศสนุกสนานอบอวลด้วยรอยยิ้มของความ
เป็นเพื่อนพ้องน้องพี่กองเชียร์ทุกคนล้วนแสดงออกด้วยความเป็นมิตรและ รู้จักทักทายชื่อเสียงเรียงนามกันได้แทบจะทุกคน คง
ไม่เหลือบ่ากว่าแรงในการร่วมมือกันก่อสร้าง "สะพานรักปราการ" ด้วยงบประมาณหัวใจปราการทุกดวงจิต เพื่อให้กองเชียร์
ป้อมปราการทุกชีวิต ทุกหัวใจปราการ ในครอบครัวปราการแห่งนี้ ได้ใช้เป็นสะพานเชื่อมใจกัน ใช้เป็นทางเดินร่วมกัน ได้ทักทาย
กัน อบอุ่นและปลอดภัย มิใช่เดินอยู่บน "สะพานรักปราการ" ที่กองเชียร์ป้อมปราการทุกชีวิตเป็นผู้สร้างขึ้นมา เนรมิตสร้าง
สรรค์ขึ้นมากับมือแล้วจะมีกองเชียร์ป้อมปราการไม่ว่าจะเป็นท่านหนึ่งท่านใดต้องหลบลี้หนีหายกัน ด้วยการกระโดดจากสะพานลง
ไปยังผืนน้ำเบื้องล่างไปทีละคน
ตำนานโศกนาฏกรรมแห่งความรัก "สะพานรักสารสิน" เป็นบทเรียนแห่งความรักอีกบทหนึ่งที่ถูกจารึกไว้ในตำนานคู่เมืองภูเก็ต
แม้ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนไปสักกี่ยุคกี่สมัย ตำนานสุขหฤหรรษาแห่งความรัก "สะพานรักปราการ" ก็คงไม่ต่างกัน แม้ว่าจะถูก
สร้างขึ้นมาทีหลัง ตำนานเหล่านี้ก็ต้องบันทึกไว้และเป็นบทเรียนที่กองเชียร์ป้อมปราการทุกชีวิตควรศึกษาและเข้าใจความหมาย
ของคำว่า "รักแท้ ที่แท้จริง" ที่กองเชียร์มีต่อทีมสมุทรปราการ เอฟซี เพื่อที่กองเชียร์ป้อมปราการจะได้ฉลองชัยชนะในนัดที่ 10
นี้ บน "สะพานรักปราการ" ในเส้นทางเดินทางกลับสมุทรปราการบ้านเราพร้อมด้วย "น้อง 3 แต้ม อันดามัน" ด้วยความ
บันเทิงเริงใจ และ จะได้เป็นแนวทางในการก้าวเดินที่มั่นคงแข็งแรงเมื่อสมุทรปราการ เอฟซี และ กองเชียร์ป้อมปราการขึ้นไปโลด
แล่นในดิวิชั่น 1 ฤดูกาลหน้าปี 2554 ต่อไป