ด้วยอิทธิพลของพายุโซนร้อน "นกเตน" (Nock - Ten) ร่องมรสุมกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงที่พาดผ่านประเทศไทย
ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักต่อเนื่องและเกิดน้ำล้นตลิ่งตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม 2554 จนถึงปัจจุบัน มีพื้นที่ที่ได้รับผล
กระทบและประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) รวมทั้งสิ้น 64 จังหวัด, 660 อำเภอ, 4,842 ตำบล,
43,045 หมู่บ้าน
พี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อน 3,317,902 ครัวเรือน, 13,325,182 คน, บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 118 หลัง,
บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 91,544 หลัง, พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะได้รับความเสียหาย 10,301,830 ไร่, ถนน 18,409
สาย, ท่อระบายน้ำ 1,028 แห่ง, ฝาย 1,075 แห่ง, ทำนบ 167 แห่ง, สะพาน / คอสะพาน 680 แห่ง, บ่อปลา / บ่อกุ้ง /
หอย 205,142 ไร่, ปศุสัตว์ 12,331,589, มีผู้เสียชีวิต 527 ราย, จำนวนวัด 2,202 แห่ง ถูกน้ำท่วม, พระสงฆ์ 23,413
รูป,
เมื่อรวมความเสียหายทั้งหมดจากเหตุการณ์มหาอุทกภัย 2554 ครั้งนี้ สร้างความเสียหายแก่ระบบเศรษฐกิจไทยในเบื้องต้น
รวมประมาณ 1.9 แสนล้านบาท โดยเป็นความเสียหายภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากมีนิคมอุตสาหกรรม 7 แหล่ง ต้องปิดทำ
การเพราะน้ำท่วมทะลักทั้งนิคมฯ ประเมินความเสียหายประมาณ 1.1 แสนล้านบาท, ภาคบริการ การค้าปลีก การก่อสร้าง
อาคารบ้านเรือนไม่สามารถดำเนินการได้ ภาคการท่องเที่ยวโรงแรม การคมนาคม คิดเป็นความเสียหาย 4.3 หมื่นล้านบาท
ภาคเกษตรได้รับผลกระทบและเสียหายประมาณ 3.9 หมื่นล้านบาท
ทั้งสงฆ์และฆราวาสประชาชีต่างล้วนได้รับผลกระทบจากธาราเทวษต้องกำสรวลต้องหมองหม่น ต้องร้องไห้อกระทมตรมไหม้
ในวิกฤตมหาอุทกภัย น้ำท่วมใหญ่ 2554 นี้ นับเป็นครั้งประวัติศาสตร์ที่ไม่เคยมีครั้งใดที่ผ่านมา ที่จะสร้างความเสียหายทั้ง
ทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างมหาศาล พี่น้องประชาชนหลายล้านครอบครัวต้องทิ้งบ้านเรือนและทรัพย์สินให้จมบาดาล ต้อง
พากันอพยพหนีน้ำ หนีตาย เพื่อเอาชีวิตรอดจากมวลกองทัพน้ำมหึมาที่ถาโถมโจมตีกระหน่ำบางครั้งโดยไม่ทันได้ตั้งตัว ด้วย
การซ้ำเติมครั้งแล้วครั้งเล่าเป็นสายระรอกคลื่นแล้วคลื่นเล่า จากภัยน้ำล้นขังเอ่อเฉอะแฉะกลายสภาพเป็นน้ำท่วมไหลท้นอย่าง
รวดเร็วและรุนแรงปานพายุทะเลบ้าคลั่ง
สุดท้าย น้ำท่วมใจกลายเป็นน้ำทุกข์ปนเปน้ำตาของพี่น้องประชาชนคนไทยต้องร้องไห้ไหลออกมา จนกระทั่งคงไม่มีหยด
น้ำตาใด ๆ จะไหลริน ไหลเอ่อ ไหลนอง ออกมาให้มันคลอเบ้าตาได้อีก ด้วยมันหมดสิ้นแล้วจริง ๆ
สวัสดี บุคคลทั่วไป!