นัดที่ 4 ของเลกแรก ฤดูกาล 2012 สมุทรปราการ เอฟซี กลับมาเล่นเป็นทีมเหย้าใช้สนามเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา มีนบุรี ต้อนรับการมาเยือนของกองทัพนักรบกรุงศรี อยุธยา เอฟซี ที่ขนกำลังพลมามากมายมหาศาล ทั้ง ม้าศึก ช้างศึก ขุนทหาร ที่พร้อมรบประจัญบานเต็มอัตราศึกกับป้อมปราการ ในวันอาทิตย์ที่ 11 มีนาคม 2555 เวลา
16.00 น. ตรงกับ แรม 4 ค่ำ เดือน 4 ด้วยปี 2555 เป็นปีอธิกมาสจึงมีเดือน 8 สองหนในปีนี้ตามปีปฏิทินจันทรคติ
นักรบกรุงศรี อยุธยา เอฟซี ชื่อนี้อาจยิ่งใหญ่เกรียงไกร เป็นที่ครั่นคร้ามหวั่นเกรงไปทั่วดินแดนภาคกลางและตะวันออก เพราะโยเดียนครมักกำชัยเหนือคู่แข่งขันยามยกทัพ
จับศึก แปลกแต่จริง เหตุผลนี้กลับใช้ไม่ได้ยามอยุธยา เอฟซี ต้องกรีฑาทัพขับเคลื่อนองคาพยพสู่ดินแดนปากแม่น้ำเจ้าพระยา สมุทรปราการ เหมือนดั่งว่า นักรบกรุงศรี
ต้องติดข่ายกลหลงมนตรา ปราการ เอฟซี ต้องติดขัดขุ่นข้องหมองใจทำอะไรสมุทรปราการ เอฟซี ไม่ได้ดั่งใจ เหมือนนักรบกรุงศรีต้องนำเอาช้างม้าพลรบจับศึกกลับมาทิ้งจม
ดิ่งติดหนึบอยู่ใต้น้ำใต้สันดอนปากแม่น้ำเจ้าพระยา คล้ายกับว่าอยุธยาหลงเหลี่ยม หลงน้ำกร่อย
ยิ่งอยุธยา เอฟซี จัดเป็นกองทัพใหญ่มหึมาด้วยการทุ่มทุนเงินงบประมาณกว่า 15 ล้าน ในการทำทีมเพื่อเตรียมตัวสู้ศึกดิวิชั่น 2 ในฤดูกาล 2012 พร้อมตั้งเป้าต้องเลื่อนชั้น
ขึ้นสู่ดิวิชั่น 1 ให้ได้ แต่เมื่อ "ยุดยา" ต้องมา "แพ้' ป้อมปราการ สมุทรปราการ เอฟซี ทีมที่มีเงินงบประมาณทำทีมต่างกันราวฟ้ากับสะดือทะเล ปราการ เอฟซี ไม่มีสิ่งใด
ต้องให้เป็นภาระกังวลใจ แม่แค่เสมอกลับไปอยุธยาก็ร้าวรอนใจแล้ว หากแม้ว่านักรบกรุงศรีออกศึกมาครั้งนี้ถึงแพ้ต่อนักเตะวัยกระเตาะ แต่ ใจสู้ อย่างป้อมปราการ 2555 อีก
คำรบหนึ่ง จะยิ่งทำให้นักรบกรุงศรีสุดระกำช้ำชอกใจราวกับว่านี่จะเป็น "บอลแพ้ทาง" หรือ "งูกับเชือกกล้วย" จริง ๆ อย่างที่มีเสียงโจษจันให้ดังอื้ออึงมี่ไปทั่วรอบเกาะเมือง
แห่งนครอโยธยาศรีรามเทพนคร