หากเอ่ยถึงชีวิตของคนที่แสนธรรมดาทั่วไปเป็นเรื่องจริงที่ว่าบ่อยครั่งอาจมีวันที่ไม่ดี สัปดาห์ที่แย่ๆ บ่อยครั้งสิ่งเหล่านี้บั่นทอนเรา ให้เราท้อแท้ และรู้สึกว่าชีวิตมันช่างยากลำบากเหลือเกิน ในการจะทำอะไรให้สำเร็จสักอย่าง เหมือนอะไรๆ ก็ไม่เป็นใจ สุดท้ายเราพลันไปโทษสิ่งรอบข้าง ว่าสิ่งแวดล้อมไม่ดีบ้าง โชคชะตากลั่นแกล้งบ้าง ดวงซวยบ้าง แต่ในวันแย่ๆ เหล่านั้นหากมีเรื่องดีๆ ขึ้นสักอย่างก็อาจทำให้หลายสิ่งหลายอย่างที่เลวร้ายให้กลับมาดีได้ สิ่งๆ นั้นใครหลายคนเรียกมันว่า “จุดเปลี่ยน “
ซึ่งจากย่อหน้าข้างต้นก็คงสอดคล้องกันกับสโมสรแห่งนี้ สโมสรแห่งศรัทธา “ป้อมปราการ” สมุทรปราการเอฟซี ทีมยักษ์หลับแห่งลีกภูมิภาคโซนภาคกลางและภาคตะวันออก ที่ฤดูกาลนี้ฟอร์มชวนหัวเสียมากกว่าสุขสันต์ มิพักเอ่ยถึงชัยชนะ แค่เสมอก็เลือดตาแทบกระเด็น ซึ่งผลงานที่เห็นตั้งแต่นัดเปิดฤดูกาลไปเยือน กบินทร์ จนถึงนัดบุก มาบตาพุด นย. ระยอง ซึ่งสะกดคำว่า ชนะได้เพียงแค่ 3 ครั้ง เสมอมากถึง 6 และพ่ายแพ้ไปแล้ว 4
เรียกเปรียบว่าหาก “ป้อมปราการ” เป็นเรือสักลำที่ออกสู่ทะเลใหญ่ ก็คงต้องเจอมรสุมลูกใหญ่ ที่พัดกรรโฉกเสียจน เรือชื่อ “ป้อมปราการ” โซซัดโซเซซ้ายทีขวาที แต่แล้วเรื่องที่ไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้นเมื่อฟอร์มที่สามวันดีสี่วันไข้ของ “ป้อมปราการ” สมุทรปราการ เริ่มมีบางสิ่งที่อาจเรียกได้ว่าจุดเปลี่ยนก็ว่าได้เมื่อเริ่มคืนฟอร์มอย่างที่แฟนบอลคาดหวัง หลังจากที่เสมอมา 4 นัดติดในลีก เริ่มตั้งแต่นัดเปิดบ้านรับ ประจวบ เอฟซี 1-1 ตามด้วย บุกไปเจ๊า กองเรือฯ 0-0 หลังจากนั้นก็เปิดรังทำได้เพียงเสมอ 1-1 กลางห่าฝน ชนิดโดนลูกผีจับยัดช่วงท้ายเกม ก่อนไปเยือน มาบตาพุด นย. ระยอง โดยนำถึง 2 ครั้ง 2 ครา แต่สุดท้ายก็ทำได้แค่เสมอ 2-2 จนทำเอาทั้งกองเชียร์ ทีมงาน รวมถึงนักเตะ ท้อแท้กันไปเลยทีเดียว
แต่แล้วในความมืดมิดก็กลับมีแสงร่ำไรอยู่ที่ปลายทาง เมื่อสมุทรปราการบุกไปทุบนครนายก เอฟซี ถึงถิ่นชนิดใครๆ ก็ไม่เชื่อว่าป้อมปราการจะยิงทะลุถึง 3-0 ทั้งๆ ที่ฤดูกาลนี้ทีมยังไม่เคยยิงถึง 3 ได้เลย และนครนายก ที่แม้ไม่โดดเด่นในฤดูกาลนี้สักเท่าไหร่ แต่ก็ไม่เคยโดนยิงขาด 3-0 เช่นกัน ซึ่งนัดนี้แม้หลายคนอาจค่อนคอดว่า ทีมนครนายก เอฟซี ก็ไม่ได้แข็งแกร่งเสียเท่าไหร่ อาจเรียกได้ว่าเป็นทีมลูกไล่ของเราเลยด้วยซ้ำ ซึ่งจะอย่างไรก็แล้วแต่เถอะเพราะความคิดใครความคิดมันอยู่แล้ว
แต่นัดต่อมานี่สิที่เรียกได้ว่าคงเป็นนัดที่ตราตรึงใจ เมื่อแข้งป้อมปราการผีเข้าโชว์ฟอร์มเยี่ยม ที่อาจจะด้วยความบังเอิญหรืออะไรก็แล้วแต่ที่ดลแฟนบอลป้อมปราการมาชมนัดนี้กันเยอะเป็นพิเศษ เนื่องจากว่าทางบรรดาแฟนบอลต้องมาจับฉลากฟุตบอลยูโรที่จัดกันในวันนี้พอดิบพอดี จึงทำให้แฟนบอลป้อมปราการมาร่วมเป็นสักขีพยานในนัดนี้หนาตาทีเดียว อีกทั้งทางกองเชียร์ฝั่งอาคันตุกะที่ตามมาเยอะ ซึ่งนัดนี้หากจะบอกว่าเป็นบททดสอบว่าทัพป้อมปราการจะมาหรือเปล่า เชื่อเหลือเกินว่าลึกๆ แล้วหลายต่อหลายคนคงไม่คิดหรอกว่าอดีตแชมป์โซนภาคกลางและภาคตะวันออกเมื่อปี 2009 จะสู้กับทีมน้องใหม่ไฟแรงได้อย่างถึงพริกถึงขิงขนาดนี้
และก็คงเป็นเหมือนอีกหลายๆ เกมที่สุดท้ายก็ฟุบเมื่อเจอของแข็ง แต่คำตอบในวันนี้กลับไม่เป็นไปอย่างที่คิด เมื่อทัพป้อมปราการ ปล่อยของกันอย่างเต็มที่ เรียกได้ว่าฮึกเหิมตั้งแต่ต้นเกม รุกไล่ทีมรองจ่าฝูงได้อย่างไม่ค่อยพบเห็นนักในฤดูกาลนี้ เรียกได้ว่าทุกคนทำหน้าที่กันได้อย่างดี ตั้งแต่หลังยันหน้า
แต่ภาพการเล่นที่ชวนตื่นเต้นกลับหล่นหายไปดื้อๆ ในครึ่งเวลาหลังทำเอาหลายคนคงคิดในใจว่าคงไม่พ้นโดนน้องใหม่ฟอร์มร้อนต้อนคาถิ่นแน่ แต่หากว่าบทลงโทษในนัดนี้ด้วยประตูนำห่าง 2-0 คงทำร้ายจิตใจแข้งปราการที่วันนี้วิ่งเป็นม้า รวมถึงสตาร์ฟ ทีมงาน และกองเชียร์ที่เชียร์อย่างสุดๆ ในนัดนี้ มากจนเกินไป ใครบางคนบนนั้นจึงเริ่มนึกสนุก เขียนบทพลิกนรกแตกขึ้นในช่วงท้ายเกม ให้ สมุทรปราการเอฟซี ไล่ตีเสมอเป็นสำเร็จในช่วงทดเวลาบาดเจ็บเรียก 1 คะแนน ที่มีค่ามหาศาลต่อจิตใจใครหลายคนเหลือเกิน ซึ่งขอถือวิสาสะยกเกมนี้เป็นเกมเรียกศรัทธาแห่งฤดูกาลอย่างแท้จริง
ซึ่งไม่ว่าจะด้วยฟอร์ม และสิ่งแวดล้อมรอบข้าง ที่ดลใจให้คิดไปไกลว่า ทีมแห่งศรัทธา ฟ้า-ขาว ทีมนี้คงจะพบกับจุดเปลี่ยนในฤดูกาลนี้เสียที หลังจากคลำหาฟอร์มอยู่นาน เชื่อเหลือเกินว่า 2 นัดสุดท้ายในเลกแรกคงจะเรียก 6 แต้ม มาให้แฟนบอลได้เสพกันได้ แล้วคุณผู้อ่านหล่ะคิดว่านี่เป็นจุดเปลี่ยนหรือเปล่า?