ภาพที่ยังติดตาตรึงใจผมในแมตช์การแข่งขันเมื่อช่วงเย็นวันเสาร์นั้น มันช่างแสนอบอ้าว และคละคลุ้งไปด้วยเสียงก่นด่า เสียงถอนหายใจ ละเหี่ยใจ เหนื่อยใจ ฯลฯ ที่ตามมาไม่หยุดบนอัฒจรรย์ตลอด 90 นาที หนักหน่อยก็ถึงกับเก็บธงที่โบกสะบัดสัญลักษณ์เสียให้รู้แล้วรู้รอดกันไป
ซึ่งที่มองผ่านสายตาตี๋ๆ คู่นั้นจากบนนั้น ด้วยความสัตย์จริงว่าผมไม่ได้รู้สึกแตกต่างจากสิ่งที่บรรดาแฟนบอลทุกๆ คนมองเห็น เมื่อบรรดาพ่อค้าแข้งที่แบกความหวัง และศรัทธาชาว ฟ้า-ขาว เราไปไม่เป็น เพียงเจอเด็กมหาลัยฯ ทีมนั้น
จากเหตุการณ์ ณ จุดที่ทีมที่ได้ชื่อว่า ฟุตบอลอาชีพอย่าง สมุทรปราการเอฟซี ต้องกลายเป็นเพียงเหยื่อ ทีมมหาลัยที่รุ่มรวยด้วยความฟุ้งเฟ้อแห่งนั้น ทั้งๆ ที่ก่อนหน้าเวลาจะหยุดลงตรงที่ 90 นาทีนั้น ผมแทบลูบปากรอคอย ชัยชนะ ที่หาได้อย่างยิ่งในช่วงเวลานี้จริงๆ เมื่อเพียงแค่นาฬิกาขยับไปเพียง 2-3 นาที ก็เห็นแววโกลผมทองรูปร่างอ้อนแอ้น กับทุกมือสีหวานรายนั้นกระโดดคว้าบอลวืด จากจังหวะบอลธรรมดาที่กระดอนพื้นเท่านั้น
แต่เมื่อเวลาผ่านไปสิ่งที่เราๆ ท่านๆ เห็นกลับเป็นเพียงการวิ่งอย่างไร้ทิศทาง สะเปะสะปะ ขาดความกระหาย เล่นเหมือนกำลังเหยียบย่ำความศรัทธา ของตัวนักเตะเอง ผู้บริหาร และแฟนบอล แบบจริงจัง (ถ้าพ่อค้าแข้งสมุทรปราการเอฟซี ทุกท่านได้อ่านอย่าได้นึกโกรธ จงเกลียดจงชัง แค่อยากบอกว่าที่เห็นและเป็นมันคือสิ่งนี้จริงๆ)
จากที่ผมเอามือลูบปาก กลับต้องมานั่งหน้าซึม บอกบุญไม่รับ เพียงเพราะหวัง และอยากเห็นพวกคุณ นักกีฬาที่สวมอาภร ที่เต็มไปด้วยศรัทธา และเรื่องราวนั้น กลับมาเสียทีหลังจากการหลับใหลที่เหมือนจะยาวนานนับได้ก่อนแข่งก็ปาไป 5 นัดทุกรายการเสียแล้ว ยาวนานแค่ไหนน่ะเหรอ???
ผมก็คงพูดได้ไม่เต็มปากเสียเท่าไหร่นัก แต่ที่ผมรู้สึกได้ว่าตอนนี้ คือว่ามันนานเหมือนไม่คิดจะตื่นมาอีกครั้งเอาเสียเลย
ตอนนี้หากให้ผมเปรียบก็คงไม่คิดต่างไปจากว่า “ป้อมปราการ” ที่เคยรุ่งเรื่อง กลับซอมซ่อลงทุกวัน แถมยังมาโดนเกลียวคลื่นพายุที่ซัดไปซัดมา จนป้อมปราการไม่อาจนิ่งเฉยต่อการสั่นสะเทือนได้เสียแล้ว ร่องรอยปลิร้าวพอมองให้เห็น เมื่อศรัทธาของชาวเราที่เคยอยู่กันแบบครอบครัวที่ไม่ใหญ่ แต่แสนอบอุ่น กลับเริ่มไม่แน่ใจ ผิดหวัง และเสียใจ กับสิ่งที่เกิดขึ้นซ้ำไปซ้ำมา จนแทบรับกันไม่ไหว เมื่อสถิติการลงสนามในทุกรายการของ “ป้อมปราการ” ใน 6 นัดหลังสุด สะกดออกมาเพียงคำเดียวว่า “แพ้” จนเป็นสถิติที่ลบทุกสถิติที่ไม่สมควรที่จะจดจำไปเสียแล้ว
ณ จุด นี้ผมคงเลิกกล่าวอ้างสิ่งใดมาทดแทนถึงสิ่งที่เกิดขึ้นซ้ำซากร่ำไป มาตั้งแต่ช่วงกลางเดือน 3 ที่ลากยาวมาจนจะเลยเดือน 4 ที่แสนอบอ้าวได้เลย คุณจะโทษใครดีหล่ะ สโมสรฯ, ผู้ก่อตั้ง, นักกีฬา ฯลฯ
แต่เพียงแต่บางที บางครั้ง บางคน บางเหตุการณ์เราควรหรือไม่ที่จะมาเหมารวมกับวิถีที่เกิดขึ้นในสนามหญ้าที่มนุษย์เราสร้างขึ้นมา เพียงบัญญัติมันว่าเกมกีฬาฟุตบอล จะมาคาบเกี่ยวกับชีวิตที่ไม่ใช่เกมของใครคนนั้น ณ ช่วงเวลานี้มันป่นปี้สิ้นดี เรื่องราวเลวร้ายเข้ามาไม่หยุดหย่อน บางทีมันก็ดูจะบัดสบเกินกว่าจะรับได้จริงๆ ชะตาชีวิต ที่ทุลักทุเล แถมดูเหมือนตอนนี้ เกมกีฬาที่เค้ารักจะยิ่งมาย่ำซ้ำเติม ชายผู้เคยเป็นที่รักของคุณคนนั้นอีก จนวันนี้แทบจะไปไม่เป็น สมควรหรือ??
แน่นอนมันอาจสมควร???
อาจจะไม่???
หรือแค่คุณผิดหวังเพียงแค่ต้องการหาที่ระบายเช่นเดียวกับผม???
แน่นอนบางท่านอาจด่าเสียเทเสียหาคนผิดเสียให้ได้ สะใจไหมท่าน???
มีความสุขไหมคุณ กับที่ได้ระบายลงมา สิ่งที่เห็น สิ่งที่เป็น มันยังไม่แย่มากพอหรือไง แต่แน่นอนนทุกท่านมีสิทธิ์ที่จะทำ หรือแสดงความคิดเห็น หรือการกระทำต่างๆ อยู่แล้วนี่ครับ
ถ้าถามผม ผมผิดหวังนะในหลายๆ เกมที่ผ่านมา
สิ่งที่เกิด บางทีก็ขัดกับสิ่งที่คิด
ถามว่าเขาคนนั้นไม่ได้ดิ้นรนหาทางออกให้ทีมหรือ???
แน่นอนเขาทำ แต่เพียงบางทีผลลัพธ์อาจไม่ได้เป็นเหมือนอย่างมั่นหมายไว้ได้เช่นกัน
กับสิ่งที่เกิดรอบตัวคนๆ นั้น ที่ทำให้ผมหรือใครหลายคนตั้งหลักไว้ไม่ได้ แต่เค้าก็พยายามอย่างเต็มที่ ที่จะยืนให้อยู่กับมรสุมชีวิตที่กระทบรุนแรงเกินทนไหว ผมว่าตอนนั้นเค้าพยายามที่จะประคองตัวเพื่อสิ่งที่คุณทุกคนศรัทธา แต่เพียงด้วยเงื่อนของเวลา และทุกๆ อย่างดูเหมือนจะเล่นตลก และทดสอบความเข้มแข็งของชายผู้นั้นไม่หยุด กับมรสุมลูกที่ 3 ลูกที่ 4 ลูกที่ 5 ฯลฯ ทั้งในชีวิตจริง และในชีวิตบนผืนหญ้านั้น น่าร่ำไห้ มากกว่าหัวเราะ สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากองค์ประกอบยิบย่อยมากมาย นับวันจะยิ่งทำให้ใครหลายคนที่ยืนเคียงข้าง ที่ ณ ตอนนี้เค้าต้องการกำลังใจเสียเป็นที่สุด เริ่มที่จะถอยหนีตีจาก บางเสียงก่นด่า บางเสียงขับไล่
สมควรหรือไม่??? แล้วแต่วิจารณญาณ
เพียงแค่อยากให้มองย้อนแยงกลับมาที่ตัวเอง ว่าหากเป็นเราๆ ท่านๆ ที่ยังกินอิ่มนอนหลับ ต้องเจอกับเรื่องราวที่สั่นคลอนสภาพจิตใจอย่างนี้แบบรอบด้านไม่หยุดหย่อน
คุณควรปลอบใจเค้าดี หรือสมควรเหยียบย่ำซ้ำเติมกันดี???
ในความคิดของผม บางที ชีวิต มันก็สำคัญกว่าสิ่งไหน เพียงแค่อยากให้กำลังใจกันบ้าง ณ นาทีนี้เค้าคนนั้นคงมืดแปดด้าน และเพียงต้องการกำลังใจ บางทีคนเราอาจไม่ได้เก่งไปเสียทุกด้าน เวลาอาจทำให้เค้าแกร่งขึ้น ในวันถัดมา ณ ตอนนี้เชื่อเหลือเกินใครคนนั้นที่เคยเป็นที่เคารพรัก เป็นหนึ่งในนักเตะแห่งศรัทธาของพวกคุณ ในวันที่เค้าท้อแท้ที่สุด เค้าต้องการความเข้าใจจากพวกคุณทุกคนที่เคยมอบความรักให้แก่เขา
หรือพวกคุณคิดจะทำลายคนที่คุณเคยยกให้เป็นที่หนึ่งนั้นไปทั้งชีวิต และจิตวิญญาณ จริงๆ???
ความรักที่คุณเคยมีให้เค้าคนนั้นมันเลือนหายไปตามกาลเวลาหรือเปล่า???
ถ้ายังไม่หายไปไหน เวลานี้แหละที่ความศรัทธาที่ทุกคนมีให้เค้าจะปลอบประโลมเค้า ผมเชื่อนะว่าเค้าคนนั้นจะพาสิ่งที่คุณศรัทธาฟื้นคืนกลับมาอีกครั้งได้
ผมว่าทุกๆ คนรัก และศรัทธา ทีมสมุทรปราการเอฟซี นี้ เสียยิ่งกว่าตัวผมที่เพียงพึ่งมาเริ่มอาชีพการงานที่นี่เท่านั้นเสียอีก หวังว่าหากคุณอ่านตัวหนังสือเหล่านี้จบ คุณเพียงแค่ย้อนกลับไปคิดเสียเท่านั้นเอง
ป้อมปราการ อาจทรุดลงไปตามกาลเวลา ณ เวลานี้
สมควรหาคนมาซ่อมแซม???
ก็ใช่
พ่อค้าแข้งที่มีตอนนี้ อาจจะหาได้อย่างดาดดื่นทั่วไป???
ก็ถูก!!!
ทุกๆ อย่างแก้ไขกันได้ ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป เวลานี้คงไม่ทัน เวลาหน้าก็ยังมี เพียงแต่ว่าศรัทธาที่คุณมียังไม่ได้จางหายไปเสียก่อนเท่านั้นเอง
ในวันที่เกลียวคลื่นแห่งศรัทธาพัดเข้าใส่ป้อมปราการ ฟ้า-ขาว ในวันที่นักเตะยังเหยียบย่ำอาชีพที่ตัวเองรัก ในวันที่ยังคงหลับใหลป้อมปราการยังคงหลับใหล
ตุ๋ตี๋เจ๊กขายขวด
ณ เวลาที่ความรู้สึกยังเต็มเปี่ยม