ตอนเป็นเด็ก ที่บ้านติดตั้งเครื่องวิทยุรับ - ส่ง กระสายเสียงทางสาย อาจจะเรียกว่าเคเบิ้ล เรดิโอ (Cable Radio) ก็น่าจะได้โดย
เสียค่าใช้จ่ายวันละ 1 บาท เดือนหนึ่งตก 30 บาท เปิดสถานีส่งกระจายเสียงตั้งแต่เช้าตรู่เวลาตีห้า เรื่อย ๆ ไปจนปิดสถานีในตอน
เที่ยงคืน มีให้เลือกฟัง 2 ภาค คือ ภาคภาษาไทย กับ ภาษาจีน คล้าย ๆ กับบริการของทรู วิชั่น ในปัจจุบันที่ออกอากาศ 24 ชั่วโมง
รายการในภาคภาษาไทย จะมีหลากหลายรายการด้วยกันทั้งเพลงลูกกรุง เพลงลูกทุ่ง รายการอาหาร รายการวิทยุละครเป็นตอน ๆ
เพลงลูกกรุงนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นเพลงของชาวคณะสุนทราภรณ์เป็นหลัก จำว่าเคยได้ยินเนื้อเพลงอยู่เพลงหนึ่ง ที่ประพันธ์คำร้อง
โดยครูอาจินต์ ปัญจพรรค์ อดีตบรรณาธิการหนังสือ "ฟ้าเมืองไทย" ทำนองโดย ครูเอื้อ สุนทรสนาน ศิลปินอัจฉริยะด้านดนตรี
บันทึกเสียงเพลงนี้ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2504 โดย อ้อย อัจฉรา ชื่อเพลงว่า "สวัสดีบางกอก" เนื้อเพลงประมาณว่า ..........
อย่าไปเลย ... บางกอกจะบอกให้
พี่เคยไปมาแล้วน้องแก้วเอ๋ย
จะบอกเจ้า ... เอาบุญคนคุ้นเคย
อย่าไปเลย ... บางกอกช้ำชอกใจ
คนที่นั่นคั้นแต่ตัวหัว ... กะทิ
หัวใจสิแสนบ้าในหน้าใส
สวมหน้ากาก ปากซื่อเขามือไว
คอยจงใจ ... ทำร้ายทำลายเรา
ด้วยเส้นทางฟุตบอลลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 รอบแชมเปี้ยนส์ ลีก 2010 นัดที่ 9 วันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคม 2553 ณ สนามศูนย์
กีฬาเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา บางมด เวลา 16.00 น. ป้อมปราการต้องออกไปเยือนบ้านเดิมของเรา เจอะเจอกับ กระทิงเหล็ก
บางกอก เอฟซี ซึ่งมั่นใจว่านัดนี้มิใช่เป็นศึกศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง นักเตะป้อมปราการเพียงคนเดียวอย่างแน่นอน แต่ด้วยศึกนี้ คือ
ศึกศักดิ์ศรีฟ้าขาว ของทีมฟุตบอลสมุทรปราการ เอฟซี และ เพื่อนพ้องน้องพี่กองเชียร์ป้อมปราการทุกชีวิต ไม่ว่าท่านจะเป็นกอง
เชียร์ฟ้าขาวที่เข้ามาเชียร์ที่เข้ามาร่วมสนับสนุนสมุทรปราการ เอฟซี ตั้งแต่เวลาหนใด ณ สถานที่ใด ไม่ว่าจะเป็นสนามเหย้าป้อม
ปราการแห่งหนใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสนามศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา บางมด ที่เคยเป็นสนามเหย้าบ้านหลังที่ 5 ของ
เรา ต่อจาก สนามสโมสรธนาคารกรุงเทพ อุดมสุข, สนามโรงเรียนนายเรือ, สนามมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ, สนาม
กกท. บางพลี
กองเชียร์ป้อมปราการแต่ละท่านต้องมีส่วนร่วมในการเป็นหนึ่งในสักขีพยานในการเดินทางกลับมายัง "บ้านหลังที่ 5" ณ สนาม
บางมดแห่งนี้อย่างด้วยการประกาศศักดาภินิหารที่แสนยิ่งใหญ่ ด้วยการเอาชนะและพิฆาตกระหน่ำกระทิงเหล็กให้แหลกเป็นผุยผง
ป้อมปราการต้องคว้าชัยเก็บสามแต้มแกล้มความสะใจ สมุทรปราการ เอฟซี ต้องชนะทั้งในสนามแข่งขัน เล่นกันให้สนุก เล่นกัน
ให้เต็มที่ด้วยการกลับมาของนักเตะที่บริบูรณ์พร้อมพรรค และ กองเชียร์ป้อมปราการ ที่ไม่มี ณ สถานที่แห่งใดจะเหมาะสมกับการ
พิสูจน์เพื่อการยืนยันให้เหล่ากองเชียร์กระทิงเหล็กกลับกลายเป็นกระทิงเด็ก ว่า การเชียร์แบบต้นฉบับ 90 นาที ไม่มีหยุด สุภาพ
บุรุษสมุทรปราการ นั้นเป็นจริงดั่งคำเล่าลือ ดั่งภาพและเสียงที่ได้เห็นแลได้ยินมาตั้งแต่ปีกลาย 2552
คงไม่มีเครื่องบรรณาการ หรือ เครื่องจิ้มก้องใด ๆ อีกแล้วที่บางกอก เอฟซี และ / หรือ กองเชียร์กระทิงเหล็ก จะสรรหาและมอบ
ให้แด่สมุทรปราการ เอฟซี และกองเชียร์สุดยอดป้อมปราการเพื่อไถ่โทษานุโทษความผิดมหันต์การมายึดครอง "บ้านหลังที่ 5"
และมาเปลี่ยนสี ทาสี เก้าอี้นั่งบนอัฒจันทร์จาก สีฟ้า มาเป็น สีเขียว หรือ สีส้ม พวกเจ้าไม่มีทางและไม่มีวัน มาเปลี่ยน สีฟ้าขาว
ในดวงหัวใจศรัทธาสมุทรปราการ เอฟซี ของพวกข้า ป้อมปราการ ไปได้เป็นอันขาด
นอกจากสามแต้มของบางกอก เอฟซี ที่ต้องยอมยกและมอบให้สมุทรปราการ เอฟซี ด้วยการยอมรับและนับถือโดยไม่มีข้อกังขา
คาใจอีกต่อไปแล้ว ว่า สมุทรปราการ เอฟซี และ กองเชียร์สุดยอดป้อมปราการ คือ "ผู้ชนะ" และ "เจ้าของบ้าน" ที่แท้จริง
ของ "บ้านหลังที่ 5" ณ สนามศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา บางมด
สวัสดี บุคคลทั่วไป!