และแล้วเทศกาลฉลองมหาสงกรานต์ปีใหม่ไทยกำลังเคลื่อนย้ายกลับเข้ามาสู่วงจรเวลาปกติเหมือนดั่งเดิม
พวกเราแต่ละท่านคงมีเวลาที่สุขสันต์ และหรรษาเบิกบานกันทั่วหน้า และชุ่มฉ่ำใจกันไปตามวิถีทางของตน
ลองหันไปดูเพื่อนบ้านสมุทรปราการ เอฟซี อย่างเจ้านกปากห่างเหิรหาว / ปทุมธานี เอฟซี ซึ่งจะเป็นทีม
ที่มาเยือนป้อมปราการ ในวันอาทิตย์ที่ 25 เมษายน 2553 เวลา 16.00 ณ สนามกรมศุลกากร ตาม
กำหนดการแข่งขันที่ออกมา โค้ชคนเดิม คือ น.ต.อ. ชำนาญ สุวรรณเวลา ได้ลาออกไปก่อนหน้านี้แล้ว
ตามติดมาด้วย "น้าเหม่ง" ประพล พงษ์พานิช ก็ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งโค้ชทีมมังกรอันตราย
ราชบุรี เอฟซี หลังจากที่ทำทีมพ่ายนักรบกรุงศรี / อยุธยา เอฟซี ผู้มาเยือน ซึ่งก็ไม่แน่เหมือนกันว่า
หากอยุธยาเป็นฝ่ายแพ้ซะเอง โค้ช สมพงษ์ วัฒนา และเหล่ากองเชียร์นักรบกรุงศรีจะทำกันเยี่ยงไร
ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ว่าโค้ชแต่ละท่านต้องลาออกหรือไม่ เมื่อทำทีมไม่ประสบความสำเร็จ หรือ พ่ายแพ้
เป็นจำนวนกี่ครั้งติดต่อกัน แต่สิ่งสำคัญที่ได้ยิน หรือ ได้อ่านข้อความผ่านตามา ก็คือ เกิดความขัดแย้ง
และความไม่เข้าใจกันขึ้นในหมู่กองเชียร์ของทีมนั้น ๆ มีการว่ากล่าวกระทบกระทั่งกัน ทำให้เกิดความไม่
เข้าใจอันดีระหว่างแฟนคลับด้วยกัน จนบางครั้งเริ่มมีกลุ่มกองเชียร์บางส่วนว่ากล่าวล่วงเกินไปถึงโค้ชและ
ผู้บริหารทีมในบางครั้ง
ดูเขาแล้ว หันมาย้อนมองตัวเราเองบ้าง ชื่นใจจังนะ แม้ว่าจะไม่ได้โดนสาดน้ำสักเท่าไรในช่วงเทศกาล
สงกรานต์ที่เพิ่งผ่านพ้นไป เพราะเหตุว่าทีมสมุทรปราการ เอฟซี มีกองเชียร์ป้อมปราการที่เฝ้ารักและ
ศรัทธา ต่างมุ่งมั่นคอยเป็นกำลังใจให้กับ "ทีม" เสมอมา ไม่ว่า "ทีม" จะลำบากลุ้มลุกคลุกคลานปาน
ใดก็ตาม กองเชียร์ปราการไม่เคยคิดจะเหยียบซ้ำ ไม่เคยคิดจะว่ากล่าวให้ช้ำทรวง พวกเรามีแต่คอยเป็นแรง
ใจแบบทุ่มกายทุ่มใจให้กับทีมสมุทรปราการ เอฟซี อย่างไม่มีวันย่อท้อ คอยดึงมือ ฉุดมือให้ลุกขึ้นสู้ เมื่อ
ยามล้มลง คอยผลักดันให้สู้ต่อ เมื่อยามทีมท้อใจ เพราะนั่นเป็นการแสดงให้เห็นถึงว่า นักเตะและทีมจะไม่
ได้ต่อสู้เพียงตามลำพัง แต่จะมีกองเชียร์ป้อมปราการอีกมากมายพร้อมร่วมต่อสู้และเป็นกำลังใจให้จน
วินาทีสุดท้ายของการแข่งขัน ด้วยแพ้ชนะพวกเราต่างร่วมกันต่อสู้และสรรค์สร้างขึ้นมาด้วยกัน
กองเชียร์ป้อมปราการไม่ได้ต่อสู้และเชียร์ทีมสมุทรปราการ เอฟซี แบบลม ๆ แล้ง ๆ แต่พวกเรากองเชียร์
หัวใจปราการทุกท่านต่างพากันเชียร์สมุทรปราการ เอฟซี แบบลมใต้ปีก ที่จะคอยช่วยพยุงป้อมปราการให้
กลายเป็น "ป้อมบินปราการ" ในการต่อกรและโรมรันกับคู่แข่งขันในนัดที่เหลือจนจบการแข่งขัน ให้ทีม
และกองเชียร์ต่าง ๆ พากันชื่นชมและแอบอิจฉาว่า ทำไมทีมเขา กองเชียร์เขา ถึงไม่มีกองเชียร์แบบเรา
"ป้อมบินปราการ" บ้างนะ
ขอบคุณกองเชียร์ "ป้อมบินปราการ" ทุกท่าน ที่ทำให้พวกเรามีถึงวันนี้ และก้าวต่อไปไม่มีวันที่สิ้นสุด
หมายเหตุ ขอแจ้งเปลี่ยนแปลงโปรแกรมและสถานที่การแข่งขันในนัดที่ 10 ใหม่ดังนี้ คือ
ปทุมธานี เอฟ.ซี. VS สมุทรปราการ เอฟ.ซี. วันอาทิตย์ที่ 25 เมษายน 2553 เวลา 17.30 น.
ณ สนามธรรมศาสตร์รังสิต (ให้ถือว่าเป็นนัดเยือนของสมุทรปราการ เอฟ.ซี.)
ลมใต้ปีก / Wind Beneath My Wings
Oh, oh, oh, oh, oh
It must have been cold there in my shadow,
to never have sunlight on your face.
You were content to let me shine, that's your way,
You always walked a step behind.
So I was the one with all the glory,
while you were the one with all the strength,
A Beautiful face without a name for so long,
A beautiful smile to hide the pain.
Did you ever know that you're my hero,
and everything I would like to be?
I can fly higher than an eagle,
'cause you are the wind beneath my wings.
It might have appeared to go unnoticed,
but I've got it all here in my heart.
I want you to know I know the truth, of course I know it.
I would be nothing without you.
Did you ever know that you're my hero?
You're everything wish I could be.
I could fly higher than an eagle,
'cause you are the wind beneath my wings.
Did I ever tell you you're my hero?
You're everything, everything I wish I could be.
Oh, and I, I could fly higher than an eagle,
'cause you are the wind beneath my wings,
'cause you are the wind beneath my wings.
Oh, the wind beneath my wings.
You, you, you, you are the wind beneath my wings.
Fly, fly, fly away. You let me fly so high.
Oh, you, you, you, the wind beneath my wings.
Oh, you, you, you, the wind beneath my wings.
Fly, fly, fly high against the sky,
so high I almost touch the sky.
Thank you, thank you,
thank God for you, the wind beneath my wings.